Blog

การเป็นผู้นำด้วยการขับเคลื่อนจากข้อมูล: เทคโนโลยีที่ทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงในการขึ้นนำใน ธุรกิจค้าปลีก ของอาเซียน

Retail

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคที่ขึ้นชื่อในเรื่องพลังของคนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆวัน ได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสมรภูมิของ ธุรกิจค้าปลีก ที่มีความแตกต่างจากที่อื่นและไม่เหมือนใคร ด้วยจำนวนประชากรที่มีจำนวนมากถึง 700 ล้านคน ที่เป็นหนึ่งในตลาดผู้บริโภคโดยรวมที่ใหญ่ที่สุดในโลก1—ด้วยศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจที่มากพอกับโซนสามเหลี่ยมแม่น้ำโขง แต่ภายใต้ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์นี้ยังมีการแย่งขันที่มีความรุนแรง ซึ่งผู้ที่สามารถอยู่รอดได้นั้นจะต้องเป็นผู้ค้าปลีกที่มีความคล่องตัวและสามารถขับเคลื่อนธุรกิจของพวกเขาด้วยข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ด้วยกระแสที่เปลี่ยนแปลงที่ท่าโทมเข้ามาอย่างรวดเร็ว และได้รับแรงหนุนจากกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบเทคโนโลยี ตามรายงานของ Google และ Bain & Company2, ผู้คนจำนวน 60 ล้านคนในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย กลายเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในช่วงปี 2021 ถึงปี 2022 ด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนระบบดิจิทัลนั้นทำให้ธุรกิจคาดหวังว่าจะเพิ่มประสบการณ์ของระบบ Omnichannel ที่มีความราบรื่นมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ มีเส้นแบ่งระหว่างร้านค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์

พลังแห่งความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง: จาก Me-commerce สู่ We-commerce

ในภูมิทัศน์ทงธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา กลยุทธ์ทางการค้าของธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมนั้นกำลังกลายเป็นสิ่งที่ล่าสมัย กุญแจสู่ความสำเร็จของการสร้างโปรไฟล์ลูกค้าที่แข็งแกร่งนั้นกลายเป็นงานที่หนักเมื่อพิจารณาถึงปริมาณและความหลากหลายของผู้บริโภค นี่คือจุดที่เทคโนโลยีบนระบบ Cloud ได้เข้ามามีบทบาท โดยอาศัยพลังของการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีฐานขนาดใหญ่

ด้วยระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร หรือว่า ERP บนระบบ Cloud นั้นสามารถทำหน้าที่เป็นตัวนำการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลขององค์กรได้ เนื่องจากระบบสามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกจุดการติดต่อของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระบบหน้าร้าน บนแพลตฟอร์ม e-commerce ระบบการสะสมคะแนนของร้านค้า และการตอบโต้กับลูกค้าบนโซเชียลมีเดีย ลองจินตนาการถึงมุมมองที่เป็นหนึ่งเดียวของลูกค้าผ่านระบบประวัติการสั่งซื้อ รวมถึงแบรนด์ที่ลูกค้าต้องการ และแม้กระทั่งการสนทนาออนไลน์ระหว่างธุรกิจและลูกค้า สื่งนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งแคมเปญการตลาดได้อย่างแม่นยำ พร้อมให้คำแนะนำเฉพาะตัวที่เข้าถึงลูกค้าตามเป้าหมาย

เหนือความคาดหมายในการทำธุรกรรม: ปลูกฝังความภักดีของลูกค้าในยุคแห่งการแบ่งปัน

ผู้ทำธุรกิจค้าปลีกที่ฉลาดนั้นกำลังจะเปลี่ยนความสนใจจากแนวคิดของ “Share of wallet” เป็น “Share of life” แม้ว่าการขายครั้งเดียวนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่การรักษาความภัดดีต่อแบรนด์ของลูกค้าในระยะยาวถือว่าเป็นรางวัลที่สูงที่สุดของธุรกิจ ซึ่งทำให้โซลูชั่นที่สามารถทำให้กระบวนการทำงานกลายเป็นระบบอัจโนมัติเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจ

เราอยากให้คุณลองนึกภาพร้านอาหารที่ให้บริการด่วน (QSR) ที่ใช้ประโยชน์จากระบบการทำงานที่เป็นอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของพวกเขา ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านแอปบนมือถือได้ ด้วยโซลูชั่นการทำงานที่เป็นอัตโนมัติที่มีความล้ำสมัย จะส่งต่อคำสั่งซื้อไปยังห้องครัวได้อย่างราบรื่น กระตุ้นระบบการสะสมคะแนน และเริ่มคำแนะนำการขายต่อยอดแบบกำหนดเป้าหมายโดยอิงจากการตั้งค่าในอดีตของลูกค้า สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจซ้ำอีกด้วย

ข้อดีของระบบการทำงานบน Cloud: ความคล่องตัวในการทำงาน ความสามารถในการปรับขนาด และความปลอดภัยของระบบ

เทคโนโลยีระบบ Cloud นั้นสามารถมอบข้อได้เปรียบของธุรกิจที่มีอยู่มากมายซึ่งโซลูชั่นภายในองค์กรแบบเดิมไม่สามารถดำเนินการได้ นี้เป็นเพียงแค่เหตุผลบางประการว่าทำไมระบบเดิมไม่สามารถเป็นอาวุธในการธุรกิจที่สำคัญได้อีกต่อไปในการพิชิตขอบเขตการทำธุรกิจค้าปลีกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้:

ความคล่องตัวในการทำธุรกิจ

ระบบการทำงานบน Cloud นั้นเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นอย่างแท้จริง ช่วยให้คุณสามารถขยายการดำเนินงานได้มากขึ้นหรือปรับให้น้อยลงเพื่อตอบสนองต่อความผันผวนของตลาด นี่เป็นสิ่งที่สำคัญในภูมิภาคที่มีความต้องการจากลูกค้าสูงในเรื่องการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง

ความสามารถในการปรับขนาดของธุรกิจ

เมื่อฐานลูกค้าของธุรกิจเติบโต้ขึ้นเรื่อยๆ โครงสร้างพื้นฐานของระบบ Cloud ของคุณนั้นจำเป็นจะต้องสามารถปรับขนาดได้ตามธุรกิจของคุณเพื่อการรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาได้อย่างราบรื่น สิ่งนี้จะช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ต่างๆของระบบที่มีราคาแพงและยังมีพื้นที่ฐานข้อมูลที่มีความจำกัด

ความปลอดภัยของระบบ

ผู้ให้บริการระบบ Cloud นั้นจำเป็นต้องลงทุนมหาศาลกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยของระบบที่จำเป็นต้องมีความแข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของลูกค้าที่มีความละเอียดอ่อนนั้นจะปลอดภัย นี่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงเรื่องภัยคุกคามทางระบบไซเบอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกังวลที่ทั้งธุรกิจและลูกค้ามี

การเตรียมรับมือกับอนาคต

ด้วยภูมิทัศน์การค้าปลีกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นถือว่าเป็นสมรภูมิการทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและโอกาส ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์ เช่น Cloud ERP และเครื่องมือเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติอื่นๆ ช่วยทำให้ผู้ค้าปลีกจะมีความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในตลาดที่มีพลวัต

อย่าเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดไป และอย่าถูกทิ้งไว้ข้างหลัง การยอมรับการปฏิวัติของระบบการทำงานบนคลาวด์นั้นถือว่าเป็นการปลดล็อกศักยภาพในการทำความเข้าใจและเชื่อมต่อกับลูกค้าของคุณอย่างแท้จริง ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม คุณสามารถเปลี่ยนธุรกิจค้าปลีกของคุณให้กลายเป็นแชมป์ในการทำธุรกิจ E-commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้

  1. Emma Broms, Max Chaaf.  Retail Outlook in Southeast Asia, January 11, 2023. https://www.business-sweden.com/insights/articles/retail-outlook-in-southeast-asia/  ↩︎
  2.  Stephanie Davis, Rohit Sipahimalani. e-Conomy SEA 2021: The Digital Decade: Southeast Asia’s internet economy resurgence is fueling growth across the region, November 10, 2021.
    https://www.bain.com/insights/e-conomy-sea-2021/ ↩︎

Share this post

Please fill out the details below.

Event Registration 1

This form is created for another event registration.

"*" indicates required fields

**This event has limited seats available.