การรวม E-Commerce และ ERP เข้าด้วยกันเป็นแผนการทำงานระยะยาวและยั่งยืน
การเพิ่มขึ้นของธุรกิจ e-commerce เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมั่นคงและสม่ำเสมอ ธุรกิจ e-commerce ในยุคปัจจุบันอาจจะดูเหมือนเป็นสนามเด็กเล่นสำหรับธุรกิจที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นยูนิคอร์นด้านเทคโนโลยี แต่ทว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Alibaba นั้นเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่มีต้นกำเนิดที่น่าสนใจเนื่องจากมีจุดเริ่มต้นมาจากจุดเล็กๆ ตามเทรนด์ 5 ประการที่ Shopify ได้ทำนายไว้เกี่ยวกับอนาคตของ e-commerce ในปี 2021 นั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เพิ่มแรงผลักดันให้กับธุรกิจ e-commerce โดยที่การเติบโตของ e-commerce ที่ควรจะใช้เวลา “10 ปีในการเติบโต กลับกลายเป็นสามารถทำให้เติบโตได้ภายในเวลาเพียง 90 วัน”
อย่างไรก็ตาม การสร้างธุรกิจ e-commerce ที่ยั่งยืนนั้นจำเป็นต้องมีการลงทุนอย่างรอบครอบและมีความรอบรู้ในโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
แพลตฟอร์ม e-commerce ส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนระบบ front-end ที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม การจัดการข้อมูลที่สำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจและการดำเนินการมักจะทำการกรอกข้อมูลด้วยตนเองบน Spreadsheet ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดอยู่สูงมาก
ธุรกรรม e-commerce ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและความต้องการของลูกค้าที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้มีความจำเป็นอย่างมากในการผสานรวมเข้ากับระบบ Back-end ที่จะสามารถจัดระเบียบกระบวนการทางธุรกิจ ปรับปรุงเวิร์คโฟลว์ และสร้างข้อมูลเชิงลึกที่ได้ค้นพบ สิ่งนี้จะนำไปสู่การสร้างธุรกิจ e-commerce ที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น
ซอฟต์แวร์ไอทีสมัยใหม่ เช่น ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรบนคลาวด์ (ERP) ช่วยให้บริษัทต่างๆ ทำกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญโดยอัตโนมัติ นอกเหนือจากการให้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
ด้านล่างนี้เป็นประโยชน์ 3 ประการที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถได้รับจากการมีระบบ ERP บนคลาวด์:
แดชบอร์ดที่แสดงผลแบบเรียลไทม์
หนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตที่กระตุ้นตลาด e-commerce คือความสามารถของธุรกิจในการปรับแต่งการส่งมอบบริการหรือผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า
ระบบ Cloud ERP เมื่อรวมเข้ากับระบบ front-end ของ e-commerce จะสามารถให้ภาพรวมของธุรกิจ สิ่งนี้ทำให้ผู้นำของธุรกิจ e-commerce จะมีมุมมองแบบ 360 องศาตามเวลาจริงของการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในธุรกิจ
แดชบอร์ดทีให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้ข้อมูลธุรกิจได้รับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจ e-commerce ผู้นำของบริษัท e-commerce สามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การช็อปปิ้งให้เหมาะกับลูกค้าของตนได้
การผสานรวมระบบที่ง่ายดายและไม่จำเป็นต้องเป็นต้องใช้โค้ด
ธุรกิจที่จัดส่งผลิตภัณฑ์ของตนไปยังประเทศต่างๆ มักจะพบว่าตนเองต้องรับมือกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ภายนอกหลายรายที่ดำเนินการในระบบที่แตกต่างกัน
ระบบ ERP บนระบบคลาวด์สมัยใหม่นั้นได้รับการกำหนดค่าล่วงหน้าไว้บนซอฟต์แวร์ระดับพื้นฐานที่สามารถปรับแต่ง ช่วยให้รวมระบบได้อย่างรวดเร็วและสามารถรวมระบบต่างๆเข้าด้วยกันอย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ผู้ให้บริการ ERP บนระบบคลาวด์ส่วนใหญ่ยังร่วมมือกับผู้รวมระบบที่ใช้งานง่ายและไม่จำเป็นต้องใช้โค้ด ซึ่งมักจะให้บริการเพื่อทำให้กระบวนการทั้งหมดเป็นอัตโนมัติ ซึ่งก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนกว่าบริษัทที่จัดการได้
ขจัดความซับซ้อนด้านไอที
ธุรกิจด้าน e-commerce ที่ประสบความสำเร็จมักจะมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งให้มีความราบรื่นยิ่งขึ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งหมายความว่าลูกค้าของพวกเขาจะสามารถดูสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์และดูสินค้าที่หน้าร้านได้ นอกจากนี้แล้วยังสามารถทำการจัดส่งถึงบ้านได้โดยที่ราคาหรือการเลือกผลิตภัณฑ์ไม่แตกต่างกันเลย
แนวทางการทำธุรกิจแบบนี้เรียกว่า กลยุทธ์การค้าปลีกแบบ omnichannel ซึ่งในช่วงแรกอาจจะเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนสูง ยิ่งสำหรับทีมไอทีภายในองค์กรที่จำดำเนินการเปลี่ยนแปลง ตามที่ Cara Wang ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโยธาแห่ง Rensselaer Polytechnic Institute ยืนยัน ซึ่งสรุปไว้ใน บทสัมภาษณ์กับ Wall Street Journal: “ยิ่งผู้ค้าปลีกเดินไปตามเส้นทางนี้มากเท่าไหร่ ซัพพลายเชนของร้านค้าปลีกก็ยิ่งเริ่มคล้ายกับใยแมงมุมมากขึ้นเท่านั้น”
ความซับซ้อนนี้ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญสำหรับธุรกิจในการยอมรับการเปลี่ยนแปลงมาสู่ระบบคลาวด์และมีการทำงานร่วมกับบริการของผู้ให้บริการ ERP และพาร์ทเนอร์ด้านโซลูชั่น เมื่อย้ายไปใช้ระบบ ERP บนระบบคลาวด์ ความรับผิดชอบในการจัดการกระบวนการที่ซับซ้อนเหล่านี้อยู่ในมือของผู้ขายที่ว่าจ้างที่ปรึกษาด้านไอทีที่ดีที่สุด สิ่งนี้ยังช่วยให้ผู้ค้าอีคอมเมิร์ซมีสมาธิกับสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด นั่นคือการดำเนินการทางธุรกิจให้ดีที่สุด
บทสรุป
เมื่อใช้งาน Cloud ERP อย่างถูกต้องแล้ว จะเป็นการลงทุนที่รับประกันความยั่งยืนของธุรกิจ ข้อมูลเชิงลึกที่ปลดล็อกสามารถช่วยผู้ค้าบทระบบ e-commerce ปรับแต่งธุรกิจของตนตามแนวโน้มของตลาดและส่งมอบผลกำไรที่เพิ่มขึ้น
Oracle NetSuite ERP
Oracle NetSuite เป็นระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรบนระบบคลาวด์ (ERP) ชั้นนำของโลก ซึ่งได้รับการปรับใช้ในบริษัทและบริษัทย่อยกว่า 40,000 แห่งใน 160 ประเทศ ERP บนระบบคลาวด์จะทำให้บริษัทของคุณก้าวไปข้างหน้าโดยช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญที่จะรับประกันการเติบโต และช่วยคุณในกระบวนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์