Blog

วิธีการใช้ระบบ ERP ในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มและผู้ผลิต CPG ในอนาคต

F&B Industry

การเพิ่มขึ้นของราคาอาหารที่ส่งผลมาจากสภาวะเงินเฟ้อและความล่าช้าในการส่งของในระบบซัพพลายเชนทำให้เกิดความวุ่นวายในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) อันเนื่องมาจากนั้นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค (CPG) ถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของพวกเขาให้สอดคล้องกับข้อเสนอ และอาจต้องพิจารณาการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงเวลาที่ไม่มีความแน่นอนเหล่านี้

นอกจากนี้ยังมีความกังวลที่เพิ่มขึ้นในผู้บริโภคเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการปฏิบัติที่ยั่งยืน เช่นการจัดการของเสียในอาหารและวิธีการจัดการกับของเสียเหล่านี้ ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงแค่ทำให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคเสียหาย แต่ยังมีผลกระทบต่อกำไรสุทธิ เนื่องจากทรัพยากรที่สูญเสียนั้นส่งผลให้เกิดความเสียหายทางการเงิน

เหตุผลเหล่านี้ยังรวมถึงต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการเบิกหรือผลิตวัตถุดิบ การแปรรูป การบรรจุหีบห่อ การขนส่ง และการจัดเก็บวัตถุดิบ การสูญเสียทางการเงินที่เกิดขึ้น สามารถมีผลต่อกำไรสุทธิและสุขภาพทางการเงินโดยรวมของบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคได้มากมาย

ดังนั้นการค้นหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการลดการเสียของอาหารและวัถุดิบเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับความประสบความสำเร็จของธุรกิจและความยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรมและเครื่องดื่ม

การมีเทคโนโลยีคลาวด์ที่มีอยู่นั้น โดยเฉพาะโซลูชั่นเช่นระบบการวางแผนทรัพยากรธุรกิจ (ERP) เป็นทางเลือกที่สามารถช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ โดยการใช้เครื่องที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงในการติดตามและปรับปรุงโซลูชั่นการจัดการกับระบบซัพพลายเชนที่มีตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจนจบ โซลูชั่น ERP เป็นพันธมิตรที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ CPG ในการสู้รบกับการสูญเสียอาหารและของเสีย

บทความนี้จะทำความเข้าใจกับบทบาทของเทคโนโลยีในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกที่ทั่วโลก โดยการให้ความสำคัญและความจำเป็นของเครื่องมือที่มีความครอบคลุมทั่วทั้งองค์กรและยังช่วยลดความสูญเสียของอาหารและวัถุดิบในทุกกระบวนการของธุรกิจ

กิจกรรมที่ยั่งยืนของ ERP ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และผู้ผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์ผู้บริโภค (CPG)

ในบทความนี้เราจะศึกษาหัวข้อเชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมที่เน้นความยั่งยืนที่มีการใช้เทคโนโลยี ERP และสำรวจว่ามันกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม CPG อย่างไร

ปรับปรุงกระบวนการของระบบซัพพลายเชนเพื่อการบริหารที่มีความยั่งยืน

ระบบ ERP สามารถช่วยให้ธุรกิจมองเห็นกิจกรรมต่างๆในระบบซัพพลายเชนได้ตามเวลาจริง ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถติดตามระบบสินค้าที่อยู่ภายในคลังได้ตลอดเวลา ตรวจสอบกระบวนการผลิต และระบุบปัญหาคอขวนหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดความล่าช้าในการจัดส่ง ด้วยการมองเห็นเหล่านี้ องค์กรสามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างทันทีและลดความเสี่ยงในการหยุดชะงักของซัพพลายเชน

เพิ่มความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังและความโปร่งใสของข้อมูล

ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในการรับรู้ถึงความโปร่งใสในการทำธุรกิจ ทำให้โซลูชั่น ERP เริ่มปฏิวัติการตรวจสอบย้อนหลังในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนทางด้านองค์กร CPG นั้นสามารถติดตามกระบวนการและตรวจสอบระบบได้ตามเวลาจริง ระบบเหล่านี้ช่วยให้มองเห็นกระบวนารของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ตั้งแต่ที่ฟาร์มจนถึงการสต็อกบนชั้นวางจำหน่ายได้อย่างครอบคลุม การตรวจสอบย้อนหลังแบบ end-to-end นั้นไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงความปลอดภัยของอาหาร แต่ยังช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกตามเกณฑ์ความยั่งยืน เช่น การจัดหาอย่างมีจริยธรรมและแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรม

การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากร

การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญของการดำเนินงานอย่างยั่งยืนภายในองค์กร ระบบ ERP นั้นได้นำเสนอเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจเพื่อใช้ในการติดตามข้อมูลการใช้ทรัพยากร เช่น พลังงาน น้ำ และวัสดุบรรจุภัณฑ์ ด้วยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ ธุรกิจสามารถระบุจุดที่ขาดประสิทธิภาพและใช้กลยุทธ์ในการลดและอนุรักษ์ของเสียได้ สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนโดยรวมขององค์กรอีกด้วย

การเริ่มใช้แนวทางปฏิบัติของเศรษฐกิจหมุนเวียน

การเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนกำลังได้รับแรงผลักดันในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงตลาด CPG โดยมีเป้าหมายเพื่อลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุดและใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบ ERP ช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงนี้โดยเปิดใช้งานกระบวนการโลจิสติกส์ย้อนกลับที่มีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกในการส่งคืน ใช้ซ้ำ หรือการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์และวัสดุบรรจุภัณฑ์ ด้วยการรวมความสามารถของห่วงโซ่อุปทานแบบย้อนกลับ ธุรกิจสามารถปิดวงจร ลดของเสีย และยอมรับแนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืนมากขึ้น

การเปลี่ยนไปใช้แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนนั้นกำลังได้แรงผลักดันอย่างมากภายในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม นี้รวมไปถึงตลาด CPG ด้วย โดยที่มีเป้าหมายหลังกคือการลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุดและใช้ทรัพยากรทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยระบบ ERP ได้เข้ามาช่วยช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงนี้โดยเปิดใช้งานกระบวนการโลจิสติกส์ย้อนหลังที่มีประสิทธิภาพสูง อำนวยความสะดวกในการส่งคืน ใช้ซ้ำ หรือการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์และวัสดุบรรจุภัณฑ์ ด้วยการรวมความสามารถของการจัดการซัพพลายเชนแบบย้อนหลัง ธุรกิจสามารถลดของเสีย และยอมรับแนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืนได้มากขึ้น

การรายงานความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

การวัดผลและการรายงานเมตริกความยั่งยืนอย่างแม่นยำมีความสำคัญต่อการแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและการปฏิบัติตามเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ระบบ ERP มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการรายงานที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจมีวิธีการรวบรวม วิเคราะห์ และรายงานประสิทธิภาพด้านความยั่งยืน แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบ ส่งเสริมความไว้วางใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และอำนวยความสะดวกในการกำกับดูแลความยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพ

ข้อคิดสุดท้าย

ในขณะที่ความยั่งยืนของธุรกิจนั้นยังคงถูกยึดเป็นกลางในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มและตลาด CPG การที่แต่ละองค์กรมีความคิดที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงระบบของตนเองให้กลายเป็นระบบ ERP นั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาในอนาคตที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ด้วยการใช้ประโยชน์ที่เทคโนโลยีใหม่มอบให้ ธุรกิจสามารมรวมแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงานหลักของพวกเขา ขับเคลื่อนธุรกิจของพวกเขาด้วยผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่พวกเขาได้ดำเนินการไว้ เริ่มต้นตั้งแต่การปรับกระบวนการทำงานของซัพพลายเชนให้เหมาะสมกับการทำงานทั้งหมาไปจนถึงการยิมรับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ระบบ ERP นั้นจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการสร้างอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับอุสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และตลาด CPG

Share this post

Please fill out the details below.

Event Registration 1

This form is created for another event registration.

"*" indicates required fields

**This event has limited seats available.