ก้าวข้ามจะระบบการทำงานแบบเดิมสู่ความเป็นเลิศด้านการจัดการเงินสด
การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในโลกหลังการระบาดใหญ่ของโรค โควิด-19 และวิกฤตการเงินที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้การจัดการเงินสดเป็นองค์ประกอบสำคัญของเรื่องทางการเงินและการบัญชี การระบาดของ โควิด-19 ได้ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของเงินสดที่หมุนในธุรกิจนั้นเป็นเรื่องสำคัญอยากมาก กระแสเงินสดจะถูกแยกออกมาเพื่อใช้ในการทำธุรกิจนั้นเป็นปัญหาหลักที่พวกเขาต้องเผชิญ เนื่องจากพวกเขาต้องดิ้นรน “เพื่อรักษาพนักงานและการดำเนินงาน การหยุดชะงักของซัพพลายเออร์ และการเข้าถึงวัตถุดิบ”
ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความผันผวนอย่างมาก ทำให้มีปริมาณธุรกรรมสูงและทุกรายการนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การจัดการเงินและกระบวนการทางบัญชีด้วยตนเองนั้นจะกลายเป็นการขัดขวางความคล่องตัวของกระแสเงินสดในธุรกิจ
ด้านล่างนี้ เราจะพิจารณาว่าเหตุใดองค์กรต่างๆ จึงพิจารณาละทิ้งระบบเดิม และมองหาโซลูชั่นระบบคลาวด์ที่ล้ำสมัยและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อบรรลุความเป็นเลิศด้านการจัดการเงินสด
ขาดระบบการทำงานที่เป็นอัตโนมัติ
การจัดการกับกระบวนการทางธุรกิจด้วยตนเองนั้น มักส่งผลให้เกิดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดจากการทำงานด้วยตนเองและการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อน สำหรับทีมการเงินและการบัญชี ข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและทำให้เกิดรายงานที่ผิดพลาด ค่าปรับจากทางการและความเสียหายด้านชื่อเสียงที่ตามมาเป็นสิ่งที่ธุรกิจควรหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุด
อุปสรรคทางด้านเทคนิค
ผู้บริการฝ่ายการเงินและบัญชีเลือกที่จะใช้แอพพลิเคชั่นที่หลากหลายและแตกต่างกันเพื่อที่จะจัดการกับกระบวนการทางการเงินและบัญชี หากบุคคลเหล่านี้ต้องการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงกระบวนการหรือปรับแต่งโซลูชั่นให้เหมาะกับความต้องการ พวกเขาอาจต้องขอความช่วยเหลือจากฝ่ายไอทีในองค์กร ระบบเดิมนั้นมีความเข้มงวดมากเกินไปจนน่างุนงงและต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคที่ดีในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ ในขณะเดียวกัน สามารถทำได้ในลักษณะลากและวางง่ายๆ ในโซลูชันการบัญชีบนคลาวด์ที่ทันสมัยและล้ำสมัย
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ระบบการทำการแบบเดิมของผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินและการบัญชี หมายถึงการทำงานบน Spreadsheet และระบบโซลูชั่นอื่นๆที่แตกต่างกัน ในขณะที่ทำงานต่างๆ เช่น รายการบันทึกประจำวัน การจับคู่ธุรกรรม และการทบยอดบัญชีทางการเงิน การที่ทำบัญชีจำนวนมากที่เกิดขึ้นนอกซอฟต์แวร์นั้นอาจจะนำความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยของระบบและข้อมูลได้
ข้อ จำกัด ที่เคร่งครัด
กระบวนการทางบัญชีและการเงินสำหรับองค์กรที่มีบริษัทย่อยนั้นจำเป็นต้องมีฟังก์ชั่นการจัดการทางการเงินระหว่างบริษัท ซึ่งอยู่นอกเหนือการทำงานของระบบแบบเดิม ที่มักจะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่มีความจำกัดสำหรับการผสานรวมระบบระหว่าง Spreadsheet และ ERP ซึ่ง ทำให้งานนั้นซับซ้อนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม สิ่งเหล่านี้เป็นข้อจำกัดที่ไม่อาจละเลยได้เมื่อธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทำไมคุณควรเลือกระบบของ Blackline
ในขณะที่ธุรกิจต่างๆ เริ่มค้นหาวิธีเพิ่มทุนที่ให้ธุรกิจเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการเติบโตและปลดล๊อกโอกาสใหม่ๆ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์เพื่อจัดการกับกระบวนการทางการเงินและบัญชีใน back-office จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
ตัวเลขสถิติได้กลายเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงบทบาทสำคัญของโซลูชั่นบัญชีบนคลาวด์ที่กำลังมีบทบาทและจะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ในอนาคต ขนาดของตลาดซอฟแวร์บัญชีทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตเป็น 20.4 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2569
ธุรกิจที่ใช้โซลูชั่นการทำบัญชีบนคลาวด์ได้รายงานว่า การเติบโตของรายได้ในธุรกิจได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตลาดโซลูชั่นการบัญชีบนคลาวด์เป็นตลาดที่มีตัวเลือกมากมาย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ธุรกิจจะต้องทำการค้นคว้าข้อมูลเพื่อหาโซลูชั่นที่เหมาะกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ
BlackLine เป็นซอฟต์แวร์บัญชีบนคลาวด์ชั้นนำของอุตสาหกรรมที่ให้บริการระบบอัตโนมัติทางการเงินและโซลูชันการบัญชีแก่ธุรกิจองค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ช่วยให้ธุรกิจดำเนินการปิดบัญชีทางการเงินโดยอัตโนมัติ การทบยอดบัญชี และทำให้งานบัญชีและการเงินอื่นๆ ให้คล่องตัวมากขึ้น
ด้านล่างนี้เราจะพิจารณา 10 เหตุผลที่คุณควรพิจารณา BlackLine เพื่อจัดการกระบวนการทางการเงินและการบัญชีของคุณ:
กระบวนการปิดบัญชีทางการเงินที่เป็นอัตโนมัติ
ซอฟต์แวร์ของ BlackLine ทำให้กระบวนการปิดบัญชีทางการเงินเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดการทำงานด้วยตนเองและปรับปรุงความแม่นยำของข้อมูล ความรวดเร็วของระบบ และประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร
ปรับปรุงความสมบูรณ์ของข้อมูล
ด้วยการทำให้กระบวนการทางบัญชีหลักทำงานโดยอัตโนมัติของระบบ BlackLine ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลทั้งหมดจะมีความถูกต้อง สน่ำเสมอ และ มีความน่าเชื่อถือสูง
การมองเห็นและการควบคุมระบบที่ดีขึ้น
BlackLine ให้การมองเห็นกระบวนการปิดบัญชีทางการเงินที่เป็นไปแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ทีมการเงินติดตามความคืบหน้าและระบุปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
การปฏิบัติตามข้อกำหนดให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น
BlackLine ช่วยให้บริษัทต่างๆ ปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานอุตสาหกรรมโดยทำให้กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นไปโดยอัตโนมัติ และให้แนวทางที่ตรวจสอบได้ของกิจกรรมทั้งหมด
ลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาด
ซอฟต์แวร์ของ BlackLine ช่วยลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาดและการฉ้อโกงโดยทำให้งานบัญชีหลักเป็นไปโดยอัตโนมัติ เช่น การกระทบยอดบัญชีทางการเงินของบริษัท
การทำงานร่วมกันที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น
BlackLine ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างทีมการเงินและบัญชีดีขึ้น ซึ่งช่วยปรับปรุงการสื่อสารและประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
ความสามารถในการปรับขนาดทางธุรกิจ
แพลตฟอร์มบนคลาวด์ของ BlackLine สามารถปรับขนาดได้สูง ซึ่งหมายความว่าสามารถเติบโตและปรับตัวได้ตามความต้องการของบริษัทที่เปลี่ยนแปลง
ใช้เวลาในการเพิ่มมูลค่าเร็วขึ้น
ซอฟต์แวร์ของ BlackLine สามารถนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าบริษัทสามารถเริ่มสร้างมูลค่าได้เร็วกว่าซอฟต์แวร์บัญชีแบบเดิม
ลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ
แพลตฟอร์มบนคลาวด์ของ BlackLine ช่วยขจัดความจำเป็นในการใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ราคาแพง ซึ่งสามารถลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของสำหรับบริษัทต่างๆ
ความได้เปรียบทางการแข่งขัน
ด้วยการทำให้กระบวนการทางบัญชีที่สำคัญเป็นไปโดยอัตโนมัติและปรับปรุงการมองเห็นและการควบคุม BlackLine สามารถช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้เปรียบทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมของตน