การเพิ่มขึ้นของการผลิตขั้นสูงและวิธีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อความเป็นเลิศ

มีหลายสิ่งที่ทำให้เรานั้นชื่นชมในความเป็นอยู่ที่ยาวนานและมีชีวิตชีวาของอุสาหกรรมการผลิตในภาคส่วนภาคหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ หนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของอุตสาหกรรมนี้คือวิวัฒนาการที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเติบโตควบคู่ไปกับเทคโนโลยีก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว

อุสาหกรรมด้านการผลิตที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นานนั้นมีลักษณะเฉพาะคือพนังงานนั้นทำงานส่วนใหญ่นั้นทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านการผลิตเท่านั้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภท อย่างไรก็ตาม ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของศตวรรษที่ 21 นำมาซึ่งช่วงเวลาแห่งความก้าวหน้าที่สำคัญ ซึ่งส่งผลให้การผลิตได้สูญเสียภาพลักษณ์ของตนในฐานะผู้นำด้านงานหนัก แรงงานราคาถูก ผู้นำการปั่นผลิตภัณฑ์ ให้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย รายได้ที่รองรับจากความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุดซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการรปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ (IR4.0) เช่น Internet of Things (IoT) ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ในประเทศสิงคโปร์ อุสาหกรรมการผลิตนั้นได้แบ่งเป็นสัดส่วนระหว่าง 20% ถึง 25% ของ GDP ของประเทศ โดยที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศความตั้งใจที่จะเข้าสู่ภาคการผลิตขั้นสูงอย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าหมายที่จะขยายอุตสาหกรรมนี้ 50% ในอีก 10 ปีข้างหน้า
“นอกเหนือจากการเพิ่มมูลค่า 50% แล้ว เราต้องการเห็นสัดส่วนการผลิตของเราเข้าสู่การผลิตขั้นสูงมากขึ้น โดยที่การแข่งขันไม่ได้ขึ้นอยู่กับต้นทุน แต่ขึ้นอยู่กับทรัพย์สินทางปัญญาที่เราสามารถสร้างได้ คุณภาพของผลิตภัณฑ์และ ความแม่นยำที่เราสามารถจัดหาให้กับภาคส่วนนี้ได้” Chan Chun Sing รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์กล่าวเมื่อต้นปีนี้

งานวิจัยของ Hitachi Solutions ในหัวข้อ 1 Trends That Will Dominate Manufacturing in 2021 คาดการณ์ว่า IoT จะกลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่นในภาคการผลิต โดยได้แรงหนุนจากความสามารถในการทำให้โรงงานสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลการแสดงแบบเรียลไทม์ หนึ่งในสามของกลไลในการผลิตใช้อุปกรณ์อัจฉริยะ โดย 34% ของผู้ผลิตระบุความตั้งใจที่จะรวม IoT เข้ากับกระบวนการของตน และ 32% ของบริษัทวางแผนที่จะฝังไว้ในผลิตภัณฑ์ของตน

การผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตได้ สาเหตุหลักมาจากความจำเป็นในยุคดิจิทัล เช่น ความแพร่หลายของเซมิคอนดักเตอร์ในทุกสิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้แล้ว ผู้ผลิตยังตระหนักถึงการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ดังตัวอย่างที่ได้เห็นจากข้อปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ในขณะที่ผู้ผลิตเปลี่ยนจากสภาพแวดล้อมที่ใช้แรงงานมากขึ้นไปสู่สภาพแวดล้อนการทำงานที่มีทักษะสูง โซลูชั่นระบบคลาวด์นั้นมีระบบมากมายที่ถูกนำเสนอให้กับธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภายให้กับพนักงงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น ผู้ผลิตพบว่าตัวเองทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผู้ที่ใช้เทคโนโลยีในยุคแรก ๆ กำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างเต็มที่จากการปฏิวัติดิจิทัล การให้ความสำคัญกับ ESG ยังต้องการให้ผู้ผลิตใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มที่เพื่อดำเนินการในลักษณะที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

ด้านล่างนี้ เราจะมาศึกษาว่าเทคโนโลยีคลาวด์ในรูปแบบปัจจุบันสามารถช่วยผู้ผลิตแข่งขันในระดับสากลและสร้างช่องทางเฉพาะสำหรับตนเองได้อย่างไร

การมองเห็นโดยรวมและแหล่งที่มาของข้อมูลที่รวมเป็นที่เดียว

ภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิตในปี 2022 ของ Deloitte เน้นย้ำให้เห็นถึงความสามารถที่ผู้ผลิตในโลกหลังยุคโควิด-19 จำเป็นจะต้องมี อย่างที่สามารถเห็นได้จากปัญหาการทำงานที่เป็นคอขวดของซัพพลายเชนในปัจจุบัน การมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เช่น ระบบ ERP บนระบบคลาวด์สามารถช่วยธุรกิจจัดการกับความไม่แน่นอนที่มาจากระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ระบบคลาวด์ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถมองเห็นทุกมุมมองของธุรกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์รวมของข้อมูล

การรวมระบบแบบที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเขียนโค้ด หรือ เขียนโค้ดให้น้อยที่สุด

ธุรกิจการผลิตมักจะติดต่อกับผู้มีส่วนรับผิดชอบต่างๆเช่น ผู้จัดจำหน่าย ผู้ขาย และ ซัพพลายเออร์ ที่ใช้โซลูชั่นทางธุรกิจที่แตกต่างกัน และมีทีมไอทีที่ตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อจัดการกับแต่ละระบบที่โรงงานจำเป็นจะต้องทำและเป็นกระบวนการที่น่าเบื่อหน่าย มีค่าใช้จ่ายสูง และจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่นาน แต่โซลูชั่นระบบคลาวด์สามารถช่วยให้ธุรกิจรวมระบบที่ให้ธุรกิจการผลิตสามารถผสานรวมระบบแบบที่ทำการเขียนโค้ดให้น้อยที่สุดหรือไม่จำเป็นต้องทำการเขียนโค้ดเลย ซึ่งช่วยให้เวิร์กโฟลว์กลายเป็นระบบอัตโนมัติ

CRM

โซลูชั่นระบบคลาวด์ช่วยให้ผู้ผลิตมองเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือพฤติกรรมของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์และมุมมอง 360 องศา พวกเขายังนำเสนอโซลูชั่นที่ช่วยให้ธุรกิจการผลิตสามารถจัดการกับข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้นตลอดระยะเวลาการใช้บริการของลูกค้า ตั้งแต่โอกาสในการขาย ใบสั่งซื้อ การดำเนินการตามคำสั่งซื้อ การต่ออายุ การเพิ่มยอดขาย การสั่งซื้อเพิ่มเติม และการสนับสนุนลูกค้า

การจัดการระบบข้อมูลของผลิตภัณฑ์

โซลูชั่นระบบคลาวด์ที่ทำตามความต้องการของผลิตภัณฑ์มาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้ผู้ผลิตสร้างและจัดการข้อมูลหลักที่มีความสำคัญต่อการดำเนินงานของการผลิต รายการที่เกี่ยวข้อง ลูกค้า คู่ค้า และผู้ขาย

การจัดการระบบการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์

ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในยุดดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ผลิตต้องหาโซลูชั่นที่สามารถเข้ามาช่วยตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว โซลูชั่นต่างๆ เช่น ระบบการจัดการคำสั่งซื้ออัจฉริยะช่วยให้ธุรกิจดำเนินการตามคำสั่งซื้อ การจัดสรร การจัดการ และกระบวนการดำเนินการตามคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อดำเนินการในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจทั่วโลก

การวางแผนและจัดตารางเวลา

ปัจจุบันการวางแผนและการจัดตารางเวลาภายในองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับธุรกิจสายการผลิตทั้งหมด การวางแผนและการจัดตารางเวลาช่วยให้บริษัทประเมินการจัดสรรทรัพยากรต่างๆให้พอเพียง การดำเนินงาน และกระบวนการที่จำเป็นในการสร้างสินค้าและบริการได้อย่างถูกต้อง ซอฟต์แวร์การผลิตบนระบบคลาวด์สามารถช่วยให้ผู้ผลิตดำเนินการตั้งเวลาตามเวลาจริง ซึ่งช่วยให้บริษัทของพวกเขาดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ฝ่ายจัดซื้อ

สำหรับธุรกิจการผลิตตามผลิตภัณฑ์ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือส่วนประกอบหลักในกระบวนการผลิตจะต้องมีการจัดหาอย่างเพียงพอ การแพร่ระบาดเมื่อเร็วๆ นี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของบริษัทผู้ผลิตในการจัดหาโซลูชั่นคลาวด์ที่ดีที่สุด โซลูชั่นเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ผลิตจะได้รับวัสดุที่เหมาะสม ถูกเวลา และถูกสถานที่

การควบคุมการผลิต

ด้วยระบบที่หลากหลายของผู้ผลิต ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้าง เผยแพร่ อัปเดต และตรวจสอบใบสั่งงานตลอดกระบวนการผลิตของตนได้ โซลูชั่นที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันสำหรับการผลิตช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นในการจัดการกระบวนการผลิตได้อย่างตรงตามที่พวกเขาต้องการ และมั่นใจได้ว่ากระบวนการผลิตจะเหมาะสมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและข้อกำหนดด้านข้อมูล

การจัดการกับระบบซัพพลายเชน

เรามักจะได้ยินข่าวกับปัญหาคอขวดของซัพพลายเชนแทบจะทุกวัน ก่อให้เกิดความโกลาหลในส่วนต่างๆ ของธุรกิจรอบโลกและส่งผลกระทบอย่างมากแก่ลูกค้า ในโลกที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้นในทุกๆวัน ซึ่งเป็นผลจากการที่ โควิด-19 กลายเป็นโรคเฉพาะถิ่น ทำให้ธุรกิจต่างๆไม่มีทางเลือกนอกจากจะเลือกใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตลาด ซึ่งช่วยให้พวกเขาเดินหน้าผ่านอุปสรรคต่างๆได้ในสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนได้ ด้วยเทคโนโลยีระบบคลาวด์สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตช่วยให้มั่นใจได้ว่าแนวคิดเกี่ยวกับสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ของคุณและใครเป็นผู้ผลิตจะไม่เกี่ยวข้องกัน โซลูชั่นเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นภาพรวมของสินค้าคงคลังทั้งหมด โดยไม่คำนึงว่าสินค้าคงคลังจะอยู่ที่ใดหรือใครกำลังใช้อยู่

Shop Floor Control

Shop Floor Control (SFC) คือชุดซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้บริษัทผู้ผลิตสามารถติดตาม กำหนดเวลาและรายงานความคืบหน้าของการทำงานในโรงงานผลิต การเลือกโซลูชั่นระบบคลาวด์ที่มีอยู่ในตลาดจะสามารถช่วยให้ธุรกิจการผลิตรวบรวมข้อมูลตามเวลาจริงจากกระบวนการผลิตได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชันแท็บเล็ตที่ผู้ใช้กำหนดค่าได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพระบบได้ทันที

การจัดการคุณภาพ

การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดให้แก่ลูกค้ามักเป็นจุดประสงค์ของธุรกิจในทุกที่ และสิ่งนี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นของทั้งบริษัทในการดำเนินการและการใช้เทคโนโลยีชั้นยอดร่วมกัน ระบบการจัดการคุณภาพมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ช่วยให้ธุรกิจกำหนดและรักษาแผนการตรวจสอบและส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงโดยมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด