Table of Contents

แนวโน้มหลักของระบบ ERP ในปี 2025: นวัตกรรมสำคัญและข้อมูลเชิงลึกที่ต้องจับตามอง

Top ERP Trends for 2025

Share

Table of Contents

ในปี 2025 ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรบนคลาวด์ หรือระบบ Cloud ERP คาดว่าจะพัฒนาต่อไปโดยมีการนำฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ ระบบ AI เข้ามาใช้มากขึ้น1. ในขณะเดียวกัน ธุรกิจหลายๆแห่งนั้นมีความจำเป็นจะต้องเสริมศักยภาพการดำเนินงานของธุรกิจด้วยโซลูชั่นที่มีความแข็งแกร่ง มีความยืดหยุ่น และอัจฉริยะ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความความซับซ้อนของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจสมัยใหม่ได้

แนวโน้มหลักของระบบ ERP ในปี 2025 มีอะไรบ้าง?

แนวโน้มหลังของระบบ Cloud ERP ที่สำคัญนั้นคงเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจากเรื่องของการมาถึงอย่างรวดเร็วของระบบ AI ที่เข้ามากำหนดทิศทางของระบบ ERP ร่วมกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ผันผวนและคาดเดา ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกับแนวโน้มบางประการที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในแวดวงของระบบ Cloud ERP

การครองตลาดของระบบการทำงานที่เป็น Cloud 

การเปลี่ยนไปใช้ระบบ Cloud ERP นั้นเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากธุรกิจหลายๆแห่งต้องการความสามารถในการปรับขนาดตามการเติบโตของธุรกิจ ความยืดหยุ่น และการเข้าถึงระบบต่างๆจากระยะไกล

รายงานล่าสุดได้ระบุว่า กว่า 76%2 ของธุรกิจนั้นได้ทำการย้ายระบบไปใช้ระบบ Cloud ERP หรืออยู่ระหว่างการดำเนินการเปลี่ยนระบบเป็น Cloud ERP เพื่อช่วยให้การบูรณาการกับระบบภายในองค์กรนั้นง่ายขึ้นและให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ช่วยลดต้นทุนในด้านระบบ IT และช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทีมที่กระจายอยู่ทั่วโลก

การบูรณาการระบบ AI และ ระบบ Machine Learning

เทคโนโลยี AI และ Machine Learning นั้นกำลังถูกผสานเข้ากับระบบการทำงาน ERP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและกระบวนการตัดสินใจในด้านธุรกิจ3. โดยการใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ องค์กรต่างๆ สามารถรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าในคลัง และปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ

เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้มีความสมบูรณ์มากขึ้น จะส่งผลให้ระบบการทำงานของ ERP มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเสนอคำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกที่เป็นระบบอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นผ่านการปรับปรุงระบบ UX/UI

ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้กำลังกลายเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาระบบ ERP หลายบริษัทต่างๆนั้นกำลังลงทุนกับอินเทอร์เฟซการใช้งานที่ง่ายและช่วยลดความซับซ้อนในการใช้งานและปรับปรุงการมีส่วนร่วมในการใช้งานของผู้ใช้4.

แดชบอร์ดการใช้งานที่สามารถปรับแต่งได้และแอปพลิเคชั่นในการทำงานที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ สามารถใช้ได้ผ่านหลายอุปกรณ์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้จากทุกที่และทุกเวลา ส่งเสริมให้พนักงานมีประสิทธิผลในการทำงานมากขึ้น

มุ่งเน้นในด้าน ESG

เนื่องจากหัวข้อเรื่องการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม หรือ ESG นั้นได้กลายมาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจต่างๆ ระบบ ERP จึงพัฒนาเพื่อรวมคุณลักษณะต่างๆ ที่รองรับเป้าหมายการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม5

ระบบนี้รวมถึงการติดตามปริมาณคาร์บอนจากการผลิต การจัดการความยั่งยืนของระบบซัพพลายเชน และการรับรองความสอดคล้องกับกฎระเบียบ บริษัทต่างๆ กำลังใช้ระบบ ERP ไม่เพียงแต่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสนับสนุนสังคมในเชิงบวกอีกด้วย

เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์นั้นมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นและเริ่มอันตรายมากขึ้น ความสำคัญของการรักาาความปลอดภัยและการเกิดข้อมูลในระบบให้เป็นส่วนตัวในระบบ ERP กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้

องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับโซลูชั่น ERP ที่มีคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น ระบบการเข้าถึงที่ใช้รหัสแบบแอดวานซ์ การตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงที่มีหลายปัจจัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบการปกป้องข้อมูล

การเปลี่ยนไปใช้ระบบบนคลาวด์ยังจำเป็นต้องเน้นที่แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยของผู้ขายและการกำกับดูแลข้อมูลอีกด้วย

AI จะมีอิทธิพลต่อเทรนด์ ERP ในปี 2025 อย่างไร?

มีการคาดการว่าอิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อระบบ Cloud ERP จะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต โดยคาดว่าจะเกิดแนวโน้มสำคัญหลายประการขึ้น ได้แก่:

การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบขั้นสูง

ระบบ AI จะช่วยในเรื่องการอำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงภายในระบบ โดยที่ ERP ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถดึงข้อมูลเชิงปฏิบัติได้จากข้อมูลจำนวนมหาศาล

การวิเคราะห์เชิงคาดการนั้นจะซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถคาดการณ์แนวโน้มทิศทางของธุรกิจ ปรับสินค้าในคลังให้เหมาะสมกับความต้องการ และปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจของการทำงานได้ดีขึ้น

การทำให้กระบวนการทำงานกลายเป็นระบบอัตโนมัติ

การทำงานที่ทำเป็นประขำ เช่น การป้อนข้อมูล การประมวลผลใบแจ้งหนี้ และการสร้างรายงาน จะถูกทำให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้นด้วยเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI

วิธีนี้ไม่เพียงช่วยลดการเกิดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานด้วยตนเอง แต่ยังช่วยให้พนักงานนั้นมีเวลามุ่งเน้นไปทำงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กร

การจัดการกับระบบซัพพลายเชนอย่างชาญฉลาด

AI นั้นได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปรับการทำงานของระบบซัพพลายเชนให้เหมาะสมการทำงานอย่างมากที่สุด โดยผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ อัลกอริทึมของระบบ Machine Learning ที่สามารถช่วยระบุการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เปลี่ยนระบบการทำงานจากการแนะนำระบบ ซัพพลายเออร์ทางเลือก และปรับระบบการขนส่งให้เหมาะสมที่สุด ส่งผลให้ระบบซัพพลายเชนมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

การพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงและการวางแผนที่ได้รับการปรับปรุง

ด้วยความสามารถของระบบ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตและจดจำรูปแบบของข้อมูล ระบบ ERP ช่วยให้การพยากรณ์ความต้องการและการวางแผนทางการเงินที่แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างคล่องตัว

คุณสมบัติของระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง 

เทคโนโลยี AI จะช่วยพัฒนาโปรโตคอลเรื่องความปลอดภัยที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยที่ภายในระบบ ERP อัลกอริทึมของระบบ Machine Learning จะช่วยตรวจจับความผิดปกติและภัยคุกคามความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้องค์กรปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การบูรณาการระบบที่ดียิ่งขึ้นและเทคโนโลยีใหม่ๆ

เนื่องจากธุรกิจต่างๆ นั้นมีความจำเป็นจะต้องพึ่งพาโซลูชั่นซอฟต์แวร์ต่างๆมากยิ่งขึ้นในการทำงาน ระบบ AI ได้ก้าวเข้ามาช่วยให้ธุรกิจสามารถ บูรณาการระบบ ERP เข้ากับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Internet of Things และระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM ได้อย่างราบรื่น การเชื่อมโยงกันนี้จะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของการดำเนินธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

ความยั่งยืนของการทำงานและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องตามจริยธรรม

AI ช่วยให้องค์กรต่างๆ ติดตามและจัดการโครงการด้านความยั่งยืนภายในระบบ ERP ได้ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ธุรกิจต่างๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องตามจริยธรรมและข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ

โซลูชั่น AI บนระบบ Cloud

การเปลี่ยนแปลงการทำงานไปสู่ระบบ Cloud ERP นั้นช่วยเร่งระบบการทำงาน ผสานรวมกับความสามารถของระบบ AI โซลูชั่นบน Cloud ที่ช่วยนำเสนอตัวเลือกที่ปรับขนาดได้และคุ้มต้นทุนสำหรับธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานภายในสถานที่จำนวนมาก

โดยสรุป

การบูรณาการระบบ AI เข้ากับระบบ ERP ภายในปี 2025 มีแนวโน้มที่จะปฏิวัติวิธีการดำเนินงานขององค์กรต่างๆ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงการตัดสินใจด้านธุรกิจ และมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ระบบ AI จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

  1. Lynn Greiner. Oracle NetSuite weaves new AI capabilities across its product line, September 10, 2024. https://www.cio.com/article/3513850/oracle-netsuite-weaves-new-ai-capabilities-across-its-product-line.html ↩︎
  2. Opkey. 2024 State of ERP Testing Report. https://www.opkey.com/state-of-erp-testing-2024 ↩︎
  3. Anexxa. How AI is used in cloud ERPs – now and in the future. May 24, 2024. https://itbrief.com.au/story/how-ai-is-used-in-cloud-erps-now-and-in-the-future ↩︎
  4. Jim O’Donnell. NetSuite ERP gets Redwood UX, more AI and procurement. September 11, 2024. https://www.techtarget.com/searcherp/news/366610223/NetSuite-ERP-gets-Redwood-UX-more-AI-and-procurement ↩︎
  5. Clover Infotech. Here’s how Cloud ERP is helping organizations achieve ESG and sustainability goals. March 28, 2023. https://www.cloverinfotech.com/blog/heres-how-cloud-erp-is-helping-organizations-achieve-esg-and-sustainability-goals/ ↩︎

Share