Table of Contents

AI และ Blockchain กำลังเปลี่ยนบทบาทของ CFO อย่างไร?

AI and Blockchain

Share

Table of Contents

โลกหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้โลกทั้งใบเผชิญกับความสับสนวุ่นวานมากจนไม่สามารถหาความแน่นอนได้เลย นอกจากนี้แล้วยังสร้างความท้าทายเพิ่มขึ้นให้กับเหล่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFOs) อีกด้วย นอกจากนี้แล้วเทคโนโลยี AI และ Blockchain ยังเข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงานอีกด้วย

CFOs นั้นจำเป็นจะต้องทำตามวิธีต่างๆ เพื่อรักษาสภานะทางการเงินขององค์กรของพวกเขาในสภาพแวดล้อมการทำการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรของพวกเขาจะสามารถเติบโตและอยู่รอดไปได้

อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Blockchain และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ก้าวเข้ามาเป็นตัวนำทางสำหรับธุรกิจในยุคใหม่ในเรื่องการจัดเตรียมงานด้วยตนเองและช่วยให้ CFOs หลายๆคนสามารถมุ่งเน้นการทำงานของพวกเขาไปยังจุดที่สำคัญได้

ต่อจากนี้ เราจะมาทำความเข้าใจและแนะนำเกี่ยวกับ AI และ Blockchain ว่าคืออะไร เพื่อเป็นการเน้นย้ำคุณลักษณะของระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) บนคลาวด์อย่างไร และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะนำมาสู่บทบาทของ CFO ได้อย่างไรบ้าง

การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีบล็อคเชนและปัญญาประดิษฐ์ (AI)

AI และ Blockchain คืออะไร?

AI นั้นคือการจำลองความเฉลียวฉลาดของมนุษย์ผ่านเครื่องจักร ทำให้เครื่องจักรเหล่านี้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีความคิดอ่านราวกับใช้ใช้สติปัญญาของมนุษย์ เช่น การเรียนรู้ การแก้ปัญหา และการตัดสินใจ AI ครอบคลุมเทคโนโลยีมากมายซึ่งรวมถึงการเรียนรู้ของเครื่อง การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และการมองเห็นของคอมพิวเตอร์

ในขณะเดียวกัน Blockchain นั้นป็นเทคโนโลยีกระบวนการจัดการบัญชีแยกประเภทดิจิทัลที่มีการกระจายอำนาจและปลอดภัย ซึ่งบันทึกธุรกรรมภายในองค์กรผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ช่วยให้มั่นใจถึงความโปร่งใสและไม่เปลี่ยนรูปแบบระบบการจัดเก็บระบบข้อมูลในฐานข้อมูลที่เชื่อมเข้าด้วยกัน ทำให้มีความมั่นคงมากขึ้น เทคโนโลยีเหล่านี้มีการประยุกต์ใช้ในด้านการจัดการกระบวนการทางการเงินและการบัญชี การจัดการระบบซัพพลายเชน และระบบในสาขาอื่นๆอีกมากมาย

AI และ Blockchain สามารถช่วยการจัดการกระบวนการทางการเงินและการบัญชีของคุณได้อย่างไร

ด้วยระบบ AI นั้นคุณจะสามารถระบุรูปแบบการทำงานและสามารถช่วยระบุความผิดปกติ และช่วยรับข้อมูลเชิงลึกที่สามารถปรับปรุงการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นจากระบบของ AI ที่นำความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินจำนวนมาก และยังสามารถช่วยให้กระบวนการทางการเงินที่เป็นเรื่องน่าเบื่อและจำเป็นต้องทำด้วยตนเอง ให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น การออกใบแจ้งหนี้ การตรวจสอบรายงานค่าใช้จ่าย และการคาดการณ์รายได้

เทคโนโลยี Blockchain นั้นช่วยในเรื่องการปรับปรุงกระบวนการทางการเงินโดยการนำเสนอระบบการเก็บบันทึกแบบกระจายอำนาจที่โปร่งใสซึ่งช่วยเร่งการตรวจสอบธุรกรรม ลดการกระทบยอดบัญชีทางการเงิน และลดเวลาในการชำระบัญชี นำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีขึ้นและลดความต้องการเงินทุน

ERP ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เมื่อเทียบกับ ERP แบบดั้งเดิม

ระบบ Cloud ERP ที่ขับเคลื่อนโดยระบบ AI เช่น Oracle NetSuite นั้นใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์และการเรียนรู้ของเครื่องจักรในการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลทางการเงิน ช่วยให้สามารถติดตาม KPI และความสามารถในการคาดการณ์แบบปรับเปลี่ยนได้อย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการทำงานของ ERP แบบดั้งเดิม

ERP แบบดั้งเดิมขาดความสามารถในการคาดการณ์และอาศัยการรายงานแบบคงที่ ซึ่งเป็นการจำกัดข้อมูลเชิงลึกเชิงวิเคราะห์ที่ทีมการเงินสามารถได้รับจากข้อมูล

ERP ที่ขับเคลื่อนด้วย Blockchain เมื่อเทียบกับ ERP แบบดั้งเดิม

ระบบ Cloud ERP ที่ขับเคลื่อนโดยระบบ Blockchain นั้นจะทำการแยกประเภทบัญชีที่ช้ร่วมกันระหว่างฝ่ายต่างๆ ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำการทบยอด ระบบ Cloud ERP ชั้นนำของอุตสาหกรรมเช่น ระบบของ Oracle NetSuite นั้นรวมระบบ Blockchain เข้าไปในการทำธุรกรรมเพื่อช่วยให้ชำระเงินได้เร็วเร็วยิ่งขึ้นและลดความต้องการของเงินทุนลงไป

ในทางกลับกัน ระบบ ERP แบบดั้งเดิมนั้นมีอยู่ภายในตลาดอย่าวกว้างขวางและไม่ใช่ระบบคลาวด์ที่แท้จริง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดขององค์กรนั้นถูกรวมไว้ในศูนย์รวมข้อมูลและทำการประมวลผลแบบเป็นชุน ขาดการมองเห็นธุรกรรมที่เป็น Blockchain ให้กับลูกค้า

Blockchain ยังรวมไฟล์ทั้งหมดด้วยการใช้รหัสเพื่อเพิ่มความปลดภัย ซึ่งระบบทั้งหมดได้รับการรวมเข้าโดยอัตโนมัติ และเป็นฟีเจอร์ที่รับผิดชอบต่อความมั่นคงของบัญชีแยกต่างๆภายในระบบ Blockchain

CFO ได้รับประโยชน์จากระบบ Cloud ERP ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Blockchain อย่างไร

การปิดบัญชีธุรกรรมที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ด้วยระบบ Cloud ERP นั้นช่วยให้การปิดบัญชีเงินรายเดือนเป็นไปอย่างต่อเนื่องพร้อมมอบการมองเห็นข้อมูลทางการเงินแบบเรียลไทม์ ช่วยให้เหล่า CFO มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและแก้ไขได้ทันที การรับรู้รายได้ที่เป็นไปอย่างอัตโนมัติยังช่วยลดความยุ่งยากในการปฏิบัติตามข้อกำหนดอีกด้วย

การควบคุมโดยระบบ AI

ระบบการทำงานของ AI และการเรียนรู้ของเครื่องจักรที่ช่วยให้ระบบ CFO มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อระบุรูปแบบและรับข้อมูลเชิงลึก ระบบ Cloud ERP กำลังเริ่มรวมเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อแนะนำการดำเนินการตามข้อมูลทางการเงิน

การใช้ประโยชน์จากระบบ Blockchain

ระบบ Blockchain นำเสนอการตรวจสอบธุรกรรมที่ง่ายขึ้นระหว่างฝ่ายต่าง ๆ และสามารถกำจัดการทบยอดบัญชีทางการเงินโดยให้แหล่งข้อมูลทางบัญชีนั้นจะรวมอยู่ภายในแหล่งข้อมูลเดียว ทำให้ CFO สามารถใช้ประโยชน์จากระบบ Blockchain เพื่อชำระธุรกรรมที่ค้างอยู่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและลดความต้องการของเงินทุนเสริม

โดยสรุป

ด้วยเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้า เช่น AI และ Blockchain ช่วยให้เพิ่มผลผลิตต่อองค์กรที่มีการใช้งาน โดยที่สร้างข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ และทำให้งานต่างๆที่องค์กรต้องทำด้วยตนเองนั้นกลายเป็นระบบอัตโนมัติ ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัย ความโปร่งใส และประสิทธิภาพ ภัยคุกคามจากการปลอมแปลงข้อมูล การฉ้อโกง และการโจมตีทางไซเบอร์สามารถถูกลบล้างได้โดยใช้เทคโนโลยีเหล่านี้

ระบบ ERP บนคลาวด์ เช่น Oracle NetSuite มอบความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาดที่ช่วยให้ CFO สามารถจัดการความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และลดข้อผิดพลาดด้วยความช่วยเหลือจากข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI

นอกจากนี้ ความมุ่งมั่นของ Oracle NetSuite ในการกำกับดูแล ความเสี่ยง และการปฏิบัติตามข้อกำหนด (GRC) ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโซลูชันทางการเงินที่พร้อมสำหรับการตรวจสอบ ส่งเสริมความโปร่งใสในขณะเดียวกันก็ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ สำหรับธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งขยายสู่ตลาดภายนอก Oracle NetSuite อำนวยความสะดวกในการจัดการการดำเนินงานหลายสกุลเงินและหลายภาษา ทำให้มั่นใจได้ถึงการเติบโตของบริษัทในเครือที่มีประสิทธิภาพ

Share