โซลูชั่นจัดการกระบวนการทางการเงินบทระบบคลาวด์เฉพาะทาง เพื่อการจัดการเงินระหว่างบริษัท
ธุรกิจในยุคดิจิทัลนั้นจำเป็นต้องใช้โซลูชั่นการจัดการเรื่องบัญชีบนคลาวด์แบบพิเศษเพื่อเสริมระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรบนคลาวด์ (ERP) เมื่อต้องมีการจัดการกับการเงินระหว่างบริษัท
หนึ่งในความท้าทายหลักในการใช้ระบบการทำงาน ERP บนคลาด์นั้นคือการจัดการทางการเงินระหว่างบริษัทคือระบบเหล่านี้มักจะทำงานโดยมีฐานข้อมูลที่เป็นส่วนกลาง ซึ่งหายความว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้ในที่เดียว และการอัปเดตข้อมูลเหล่านั้นจะมีผลทันทีทั่วทั้งระบบ แม้ว่าการอัปเดตนั้นจะเป็นการจัดการกับธุรกรรมภายในเอนทิตี้เดียว และนอกจากนี้แล้วยังสามารถสร้างปัญหาได้เมื่อต้องจัดการกับธุรกรรมของหลายๆเอนทิตี้
ตัวอย่างเช่น เมื่อกิจการหนึ่งภายใต้บริษัทขายสินค้าหรือบริการให้กับอีกกิจการหนึ่งธุรกรรมจำเป็นต้องบันทึกในธุรกรรมของทั้งสองกิจการ ซึ่งหมายความว่าจำเป็นจะต้องอัปเดตข้อมูลในสองฐานข้อมูลที่จะต้องแยกออกจากกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระบบ Cloud ERP ทำให้ข้อมูลทั้งหมดอยู่รวมอยู่ในที่เดียวกัน อาจจะมีความล่าช้าในการอัปเดตฐานข้อมูลของทั้งสองบริษัท สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ความคลาดเคลื่อนระหว่างข้อมูลของทั้งสองบริษัท ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาภายหลัง
ความท้าทายอีกหนึ่งประการที่ธุรกิจหลายๆแห่งจะต้องเผชิญเมื่อต้องดูแลหลายหน่วยงานคือ ความต้องการระบบ ERP ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อที่จะจัดการกับข้อกำหนกที่มีความซับซ้อนของบัญชีระหว่างบริษัท ตัวอย่างเช่น ธุรกรรมบางอย่างอาจเกี่ยวข้องกับสกุลเงินและรหัสภาษีที่แตกต่างกัน ระบบอาจไม่สามารถตจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้ นอกจากนี้แล้ว หน่วยงานที่แยกจากกันอาจจะมีกฏระเบียบในการทำงานหรือข้อกำหนดในการรายงานที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งทำให้การกระทบยอดระหว่างธุรกรรมกลายเป็นเรื่องยากขึ้น
เพื่อรับมือกกับความท้าทายเหล่านี้ โซลูชั่นการบัญชีระบบคลาวด์เฉพาะทางที่มีความหลากหลาย สามารถช่วยเสริมและปรับปรุงงานที่ทำได้โดยการใช้ระบบคลาวด์ ERP โซลูชั่นที่อยู่ในระดับแนวหน้าของระบบอัตโนมัติของกระบวนการทางบัญชีที่ซับซ้อนคือ BlackLine นี่คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับความซับซ้อนของธุรกรรมระหว่างบริษัทโดยเฉพาะ และสามารถกำหนดค่าให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละเอนทิตีภายในบริษัทแม่ได้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้แน่ใจว่าธุรกรรมได้รับการบันทึกอย่างถูกต้องและสอดคล้องกันในทุกหน่วยงาน และช่วยให้สามารถระบุและแก้ไขความแตกต่างได้อย่างรวดเร็ว
คุณสมบัติหลังของ BlackLine คือความสามารถในการปรับปรุงการประนีประนอมระหว่างบริษัท ด้วยการทำงานของ BlackLine บริษัทต่างๆ สามารถดำเนินการทบยอดธุรกรรมระหว่างหน่วยงานต่างๆภายใต้บริษัทแม่เป็นไปโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกรรมจะได้รับการบันทึกในระบบอย่างถูกต้อง และระบุและแก้ไขความคลาดเคลื่อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
คุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างของ BlackLine คือความสามารถในการจัดการกับข้อกำหนดทางการเงินและบัญชีระหว่างบริษัทที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ด้วยซอฟต์แวร์ของ BlackLine ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อจัดการกับธุรกรรมระหว่างบริษัท และสามารถกำหนดค่าให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละหน่วยงานภายในบริษัทแม่ได้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้แน่ใจว่าหน่วยงานทั้งหมดใช้กฎการบัญชีและมาตรฐานการรายงานที่สอดคล้องกัน ปรับปรุงความแม่นยำและประสิทธิภาพโดยรวม
นอกจากนี้ BlackLine ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการทางการเงินระหว่างบริษัทได้ เช่น ซอฟต์แวร์สามารถช่วยสร้างและอนุมัติใบแจ้งหนี้และการชำระเงินระหว่างบริษัทได้โดยอัตโนมัติ ลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาดและความล่าช้า นอกจากนี้ยังช่วยลดความซับซ้อนในการรวมงบการเงินระหว่างหน่วยงานต่างๆ ประหยัดเวลาและเพิ่มความแม่นยำ
โดยรวมแล้ว BlackLine สามารถช่วยเติมเต็มช่องว่างของระบบ ERP บนคลาวด์สำหรับการเงินระหว่างบริษัท โดยมอบโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับความซับซ้อนของการบัญชีระหว่างบริษัทโดยเฉพาะ ด้วยการทำให้กระบวนการหลักเป็นไปโดยอัตโนมัติและจัดหาแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นซึ่งสามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการเฉพาะได้ BlackLine สามารถช่วยบริษัทต่างๆ ในการปรับปรุงความถูกต้อง ประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการดำเนินงานทางการเงินระหว่างบริษัทของตน
