Blog

ข้อแตกต่างระหว่างระบบ ERP และ CRM

แม้ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้บริโภคจะได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายในบทบาทในการปฏิวัติมนุษยชาติ แต่ทว่า สำหรับฝ่ายไอทีในองค์กรหลายๆแห่ง กลับกลายเป็นรับบทบาทฮีโร่ในการทำให้บริษัทต่างๆ สามารถผลิตสินค้าและบริการให้เราได้ใช้กัน ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เป็นสองโซลูชั่นที่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

ในขณะที่โซลูชั่น CRM มุ่งเน้นไปที่ระบบที่สามารถช่วยให้ผู้มีส่วนร่วมในการทำงานของธุรกิจ บันทึกเหตุการณ์และเก็บบันทึกการทำงานที่สำคัญองพวกเค้า ตั้งแต่การเริ่มเข้าหากลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มที่จะมาเป็นลูกค้าของธุรกิจจนถึงการกลายมาเป็นลูกค้า ระบบ ERP ช่วยให้บริษัทต่างๆมีฐานข้อมูลกลาง ที่สามารถช่วยให้ธุรกิจได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆในธุรกิจ

หากย้อนกลับไปดูต้นกำเนิดของระบบ CRM นั้นจะพบว่าระบบนี้ได้เริ่มต้นมาจากระบบการทำงานอัตโนมัติของฝ่ายขาย (SFA) ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในปี 1990 ในฐานะฐานข้อมูลที่เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการขายและการตลาด ในขณะเดียวกัน ERP มีรากฐานมาจากระบบการวางแผนความต้องการวัสดุ (MRP) ซึ่งเน้นที่อุตสาหกรรมการผลิตมากกว่า

ในปัจจุบันระบบ ERP มาพร้อมกับโซลูชั่นที่ทำงานโดยอัตโนมัติและมาพร่อมกับระบบจัดการกระบวนการทางการเงินซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้มีผลกำไรสูงขึ้น แม้ว่าระบบ ERP บนคลาวด์จะมาพร้อมกับโซลูชัน CRM ของตัวเอง แต่ระบบหลังบ้านจะเป็นระบบแบบสแตนด์อโลนที่สามารถรวมเข้ากับระบบเดิมได้

ระบบ Cloud ERP ในตลาดปัจจุบันช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถมองเห็นกระบวนการทางธุรกิจของตนได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะเดียวกัน ลักษณะของระบบ CRM แบบสแตนด์อโลน เสนอมุมมองโดยรวมของลูกค้าแก่บริษัทต่างๆ แต่ทว่าระบบ CRM เหล่านี้มักจะขาดการมองเห็นที่เกี่ยวข้องกับระบบ ERP บนคลาวด์

การถือกำเนิดของยุคดิจิทัลทำให้ CRM และ ERP พัฒนาไปสู่ระบบที่เป็นมากกว่าระบบสองระบบที่แยกกัน ด้านล่างเราจะดูและทำความเข้าใจกับความแตกต่างระหว่าง CRM และ ERP และวิธีที่ธุรกิจจะได้ประโยชน์จากการมีระบบเดียวหรือทั้งสองระบบเพื่อช่วยในการดำเนินงาน

CRM

Difference between ERP and CRM

ระบบ Cloud CRM ในปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา และบนอุปกรณ์ใดก็ได้ โดยที่คุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ด้านล่างนี้คือคุณลักษณะบางอย่างของโซลูชัน Cloud CRM:

รวมระบบ Sale Force ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ

โซลูชั่นระบบ CRM ในยุคดิจิทัล อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถตั้งกฎระเบียบในการใช้งาน ช่วยให้ทีมเซลล์สามารถดำเนินงานตามทริกเกอร์หรือเหตุการณ์ได้ทันทีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากลูกค้ากรอกแบบฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์ของคุณ โซลูชัน CRM จะทำให้แน่ใจว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการขายจะได้รับข้อความ

การทำงานการตลาดที่เป็นระบบอัตโนมัติ

คุณลักษณะนี้ช่วยเสริมกระบวนการตัดสินใจของทีมการตลาดโดยการระบุ จัดการ และดำเนินแคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล กระบวนการนี้ช่วยลดความยุ่งยากที่มักเกิดขึ้นระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของลูกค้าเป้าหมายและกระบวนการแปลง

การจัดการกระบวนลูกค้าสัมพันธ์

ด้วยความสามารถในการมองเห็นข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์และรอบด้าน ระบบ CRM จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถตอบสนองได้กับทุกความเปลี่ยนแปลงของความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้แล้ว ระบบ CRM ยังสามารถติดตามการสื่อสารทั้งหมดของลูกค้าที่มีในตลอดขั้นตอนการซื้อ

การจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างพาร์ทเนอร์

บริษัทต่างๆ สามารถรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ระหว่างธุรกิจและคู่ค้าได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อธุรกิจใช้แคมเปญร่วมกัน ทำให้บริษัทต่างๆ มองเห็นข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างเต็มที่ในกระบวนการขายและการตลาดที่เน้นการทำงานร่วมกันระหว่างพาร์ทเนอร์

จัดการผ่านอุปกรณ์ต่างๆ

สิ่งที่อำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดที่ระบบสามารถมอบให้กับพนังการในยุคดิจิทัลคือความสามารถในการตรวจสอบขั้นตอนการทำงานและข้อมูลต่างๆผ่านอุปกรณ์พกพาของพวกเขาได้ โดยการวิจัยของ Forrester ได้แสดงให้เห็นว่า 50% ของทีมขายและการตลาดปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยการติดตามสิ่งต่างๆ ผ่านอุปกรณ์พกพาของพวกเค้า ในขณะเดียวกัน การวิจัยของ Nucleus ได้เผยว่า 65% ของทีมขายบรรลุยอดขายตามโควต้าด้วยฟังก์ชันบนมือถือของ CRM ในขณะที่สำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ที่ไม่ใช่มือถือ ตัวเลขนี้อยู่ที่เพียงแค่ 12% เท่านั้น

การรายงานและการวิเคราะห์ผล

แดชบอร์ดที่สามารถแสดงผลให้ธุรกิจได้เห็นข้อมูลของผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์ช่วยให้ทีมขายและทีมการตลาดสามารถเข้าใจกับพฤติกรรมของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้พวกเข้าสามารถคิดแคมเปญและปรับแต่งฟังก์ชั่นต่างๆได้ตามเป้าหมายลูกค้าและตามกลุ่มเป้าหมายโฆษณาตามข้อมูลประชากรและกลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทต่างๆ ปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ที่จะช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้

ERP

Difference between ERP and CRM

ระบบ ERP ที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นระบบองค์รวมบนคลาวด์ที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินงานทางธุรกิจต่างๆ รวบรวมอยู่ในที่เดียว ซึ่งระบบนี้ครอบคลุมทุกระบบตั้งแต่การเงินและการบัญชี การจัดการธุรกิจทั่วโลก การจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการคำสั่งซื้อ การจัดการซัพพลายเชน และการจัดการคลังสินค้า ด้านล่างนี้เราจะมาดูกันว่าฟีเจอร์เหล่านี้สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร

การเงินและการบัญชี

กระบวนการป้อนข้อมูลทางการเงินและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีอาจจะเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความตั้งใจและมีความเสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดได้  เพื่อให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ระบบอัตโนมัติของกระบวนการทางการเงินและการบัญชีจะช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้

การจัดการกับธุรกิจระดับโลก

สำหรับบริษัทที่มีสาขาย่อยอยู่ในประเทศอื่นๆ ความสามารถเข้าถึงข้อมูลที่รวมไว้ในที่เดียวนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ นอกจากนี้แล้ว ยังมีข้อกำหนดด้านกฎระเบียบสำหรับบริษัทที่มีสาขาย่อยในต่างประเทศที่ต้องปฏิบัติตาม ระบบ ERP บนคลาวด์ส่วนใหญ่มีให้บริการในหลายสกุลเงินและหลายภาษา และสามารถปรับแต่งได้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบต่างๆ ที่กำหนดโดยประเทศต่างๆ

การจัดการสินค้าในคลัง

ด้วยระบบอัตโนมัติของการจัดการสินค้าในคลัง บริษัทสามารถรักษาต้นทุนสินค้าในคลังให้ต่ำ ในขณะที่ยังสามารถตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า ระบบ Cloud ERP ยังนำเสนอการคาดการณ์ที่แม่นยำซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเตรียมพร้อมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

การจัดการคำสั่งสินค้า

โดยการรวมระบบทั้งหมดในบริษัทให้มีมุมมองข้อมูลแบบรวม กระบวนการจัดการคำสั่งซื้อจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยขจัดปัญหาคอขวดและป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทำให้มีความลื่นไหลในการออกใบแจ้งหนี้และการชำระเงินที่ตรงเวลา

การจัดกการกับระบบซัพพลายเชน

สำหรับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ สถานที่ที่ผลิตสินค้าหรือร้านค้านั้นไม่สำคัญถ้าหากคุณมีระบบการจัดการที่ดี ด้วยการใช้ระบบ ERP บนคลาวด์ ธุรกิจสามารถรับประกันการจัดหาวัตถุดิบ กำหนดปริมาณของสต็อกในสินค้าคงคลังของตน ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการเติมสินค้าให้สอดคล้องกับอุปสงค์และอุปทานของธุรกิจ

การจัดการโกดังสินค้า

ในสภาพตลาดที่มีการแข่งขันของแต่ละธุรกิจสูง เช่น ในธุรกิจ E-commerce ความแข็งแกร่งของบริษัทมักไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของคุณเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการส่งสินค้าของคุณด้วย ระบบ Cloud ERP มุ่งตอบสนองความคาดหวังของแพลตฟอร์มค้าปลีก E-commerce ในยุคใหม่.

สรุปโดยรวม

ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บริษัทจะมีความคล่องตัวมากขึ้นถ้ามีระบบอยู่บนคลาวด์ จะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทที่ทำงานบนระบบแบบเดิม

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เน้นย้ำถึงความสำคัญของการย้ายไปยังระบบคลาวด์ เห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงอย่างราบรื่นไปสู่บรรทัดฐานการทำงานจากที่บ้าน สำหรับบริษัทที่ย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ ซึ่งจำเป็นเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

โซลูชัน CRM นำเสนอการขาย การตลาด และหน่วยบริการลูกค้าของธุรกิจด้วยข้อมูลที่รวบรวมไว้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและตอบสนองต่อข้อร้องเรียนของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกัน ระบบ Cloud ERP เป็นระบบที่ครอบคลุมมากกว่า ซึ่งมีอิทธิพลมากกว่าแค่ CRM ซึ่งครอบคลุมหน่วยงานที่สำคัญทั้งหมดในธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจมีแหล่งความจริงแหล่งเดียว ช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัว เปิดกว้าง และพร้อมรับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนตลอดเวลา

Share this post

Please fill out the details below.

Event Registration 1

This form is created for another event registration.

"*" indicates required fields

**This event has limited seats available.