5 ส่ิงที่ CFO ควรให้ความสำคัญเมื่อดำเนินการริเริ่มการปฏิรูประบบดิจิทัล

บทบาทและความรับผิดชอบของ Chief Financial Officer (CFO) นั้นมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งหน้าที่หลักของ CFO ในอดีตมักจะเน้นเกี่ยวกับการดูแลของการเงินของบริษัททั้งหมด นอกเหนือจากนี้แล้ว การมีบทบทาในการตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ขององค์กรแล้ว ในอีกมุมมองแล้ว CFO ในยุคดิจิทัลยังพบว่าพวกเขามีบทบาทมากขึ้นในการตัดสินใจที่เน้นการปฏิบัติการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)

การเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจด้านดิจิทัลทำให้ CFO ส่วนใหญ่จะต้องควบตำแหน่ง Chief Technology Officer (CTO) หรือ Chief Information Officer (CIO) ในฐานะผู้มีอำนาจตัดสินใจที่สำคัญในบริษัท ด้วยการระบาดใหญ่ของโควิด-19 อาจจะทำให้การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของหลายๆบริษัทนั้นเร่งรัดและกลายเป็นกระบวนการที่เร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเสียหายของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 นั้นมีความยืดยาวนานมาก และเป็นสัญญาณที่น่ากังวลและเป็นโอกาสสำหรับ CFO ส่วนใหญ่จะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของบริษัทพวกเขา กล่าวสั้นๆคือ บทบาทของ CFO ในการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลนั้นเป็นสิ่งสำคัญ

ลักษณะการหยุดเริ่มต้นของธุรกิจเมื่อจำนวนโควิด-19 เพิ่มขึ้นและลดลง ซึ่งมักตามมาด้วยการล็อกดาวน์ ได้ทำหน้าที่เน้นย้ำว่าธุรกิจที่ทำการเปลี่ยนแปลงระบบให้เป็นดิจิทัลนั้นสามารถใช้ประโยชน์ที่สมควรได้รับจากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลนั้นไม่ใช่เทรนด์แฟชั่น และหากไม่มีการวางแผนที่ดีพอ อาจจะกลายเป็นความผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูงได้

ผลการศึกษาของ CFO Research/Grant Thornton ระบุว่า 69% ของ CFO คาดการณ์ว่าจะลงทุนในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมากขึ้นในปี 2021 โดย 66% จากตัวเลขดังกล่าวกล่าวว่าพวกเขาคาดว่าจะ “จัดการเทคโนโลยีได้มากขึ้นอย่างมาก” ในปีนี้

ด้านล่างเราทำความเข้าใจบทบาทของ CFO ในการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล:

2. มุ่งเน้นไปที่การรวมข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีบริษัทในเครือ

ธุรกิจต่างๆ มักจะเร่งในการออกงบประมาณทางด้านการเงินให้ตรงเวลา สิ่งนี้ทำให้เกิดแรงกดดันจากผู้นำระดับสูงในทีมการเงินในการจัดทำงบประมาณของบริษัทให้ทันเวลา

แต่ในทางกลับกัน สมาชิกของทีมการเงินต้องสร้างความสมดุลระหว่างความต้องการในการจัดส่งรายงายอย่างรวดเร็วกับความสำคัญของการทำงบให้ถูกต้อง ซึ่งบางครั้งข้อผิดพลาดอาจส่งผลให้เกิดค่าปรับจากหน่วยงานกำกับดูแลและชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย

งานในการจัดทำรายงานทางด้านการเงินจะยิ่งมีความซับซ้อนเมื่อบริษัทของคุณมีบริษัทย่อย การเตรียมจัดทำรายงานทางการเงินนั้น จำเป็นจะต้องรวบรวมข้อมูลจากระบบที่แตกต่างกันซึ่งใช้โดยบริษัทในเครือก่อนที่คุณจะแปลงข้อมูลนั้นเป็นรูปแบบตามที่กำหนดไว้และทำให้ข้อมูลเป็นมาตรฐาน

สิ่งที่ตามมาคือกระบวนการที่ยาวนานในการตรวจสอบรายละเอียดบัญชีและข้อมูลการจัดสรรต้นทุนค่าใช้จ่ายภายในบริษัท การระบุข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมระหว่างบริษัท การปรับยอดที่คงเหลือของทุน และการทำงานด้านอื่นๆ

ระบบ Cloud Enterprise Resource Planning (ERP) นำเสนอวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้โดยการนำเอนทิตี้ต่างๆในองค์กรมารวมกัน และเสนอมุมมองแบบรวมที่ตัดผ่านบริษัทในเครือทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน

ระบบ ERP บนคลาวด์ส่วนใหญ่นั้นมาพร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์ที่ดีที่สุดซึ่งใช้เทคโนโลยีล่าสุด การมีเอนทิตีทั้งหมดของธุรกิจภายใต้ระบบเดียว ระบบ Cloud ERP จะส่งข้อมูลที่หลากหลายซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ

4. การวางแผนและการเลือกระบบที่รัดกุมและการทำงานร่วมกับที่ปรึกษาที่เหมาะสม

CFO นั้นจะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับ CTO เพื่อให้แน่ใจว่ามีแผนการย้ายระบบของธุรกิจไปอย่างระบบคลาวด์ นี้เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการแมปข้อมูลที่เหมาะสม การเลือกระบบที่เหมาะสมนั้น การทำงานถึงจำเป็นจะต้องมีการร่วมมือกับผู้จำหน่ายระบบไอทีที่มีคุณสมบัติระดับสูง

ข้อเท็จจริงที่ว่าระบบสมัยใหม่โฮสต์บนคลาวด์ช่วยลดภาระในการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ซับซ้อนของแผนกไอทีภายในองค์กร นอกจากนี้ ผู้ให้บริการ ERP บนระบบคลาวด์ส่วนใหญ่ยังทำงานร่วมกับที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด ซึ่งรับประกันว่าคุณจะได้รับบริการชั้นยอด

5. มองหาการผสานรวมและความสามารถในการปรับขนาด

การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ (IR4.0) ทำให้ธุรกิจมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีพื้นที่พอสำหรับการวางระบบที่เข้มงวดภายในองค์กรอีกต่อไป

CEO ของบริษัทจำเป็นต้องมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกหน่วยงานในบริษัทเพื่อที่จะเข้าใจความต้องการทางด้านเทคโนโลยีของธุรกิจอย่างถ่องแท้ มื่อดำเนินการเสร็จแล้ว CFO จะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับ CTO เพื่อนำระบบที่มีการผสานรวมและความสามารถในการปรับขนาดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

บทสรุป

บทบาทของ CFO ในการเริ่งการเปลี่ยนแปลงระบบให้กลายเป็นระบบดิจิทัลนั้นเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนสูง พวกเขาจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะตามคู่แข่งไม่ทันในการพัฒนาและทำให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเสี่ยงที่จะต้องแบกรับผลกระทบจากผู้ถือหุ้นอีกด้วยหากธุรกิจมีปัญหาจากการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช้เรื่องที่ซับซ้อนอะไรเลย เรื่องที่น่ากลัวนั้นอยู่ในรายละเอียด และหากธุรกิจมีเวลาพอและให้ความสนใจกับประเด็นที่เรากล่าวไปนั้น ธุรกิจจะได้รับความสำเร็จที่จะได้รับการชื่อชมต่อไปอีกหลายปี