วางแผนการเดินทางธุรกิจของคุณ: โซลูชั่นการผสานรวมระบบที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ

โซลูชั่นการผสานรวมระบบนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ แต่การค้นหาโซลูชั่นที่สามารถรวมระบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ท้าท้าทายอย่างมาก

ธุรกิจต่างๆนั้นต้องการที่จะใช้โซลูชั่นที่มีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการของธุรกิจของตนมากขึ้น การสร้างระบบที่สามารถผสานรวมทุกการทำงานในธุรกิจโดยดารเขียนโค้ดด้วยตัวเองนั้นอาจจะทำให้มีการบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นและจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่น การควบคุมระบบที่ครอบคลุม เพื่อตอบสนองกับความต้องการของธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องทราบเกี่ยวกับเรื่องการสร้างและบำรุงรักษาการรวมโค้ดทั้งหมดแบบกำหนดเองนั้นต้องการบุคคลากรที่มีความสามารถทางเทคนิคระดับสูง มีค่าใช้จ่ายสูง และใช้เวลานานโดย เฉพาะเวลามีจำนวนของระบบและแอปพลิเคชั่นในระบบเพิ่มขึ้น

ในหลายๆกรณี การเลือกโซลูชั่นการผสานรวมระบบผ่านบริษัทบุคคลาที่สามที่นำเสนอโซลูชั่นการรวมที่สร้างไว้ล่วงหน้าอาจเป็นแนวทางที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตมากขึ้น  ซึ่งให้ทั้งความสามารถในการปรับแต่งได้เองและความง่ายในการนำไปใช้งาน

สิ่งที่ธุรกิจจำเป็นจะต้องพิจารณาคือความต้องการเฉพาะของธุรกิจด้วยความรอบคอบ และเลือกโซลูชั่นการผสานรวมที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โซลูชั่นการรวมระบบคืออะไร?

เรามาเริ่มการสนทนาว่าโซลูชั่นการรวมระบบคืออะไร

โซลูชั่นการผสานรวมระบบมักใช้เพื่อเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์ม หรือรวมข้อมูลที่มาจากแหล่งที่แตกต่างกัน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ทำให้เวิร์กโฟลว์กลายเป็นระบบอัตโนมัติ และปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ สิ่งนี้เรียกว่า Third-party solutions

โซลูชั่นการผสานรวมระบบอาจจะถูกจัดส่งผ่านระบบคลาวด์ หรือการติดตั้งในสถานที่ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ขึ้นอยู่กับผู้จำหน่ายและข้อกำหนดเฉพาะของบริษัท

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่จะต้องมีการประเมินข้อกำหนดของผู้จำหน่ายแต่ละเจ้าและคุณสมบัติของการผสานรวมระบบเมื่อเลือกโซลูชั่นที่ต้องการ ในขณะเดียวกัน จะต้องพิจารณาความต้องการเฉพาะของบริษัท งบประมาณ และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขององค์กรด้วย

ประเภทของโซลูชันการรวมระบบ

ต่อไปนี้เป็นโซลูชันการผสานรวมบางประเภทที่คุณสามารถใช้เป็นข้อพิจารณาได้:

Enterprise Service Bus (ESB)

ESB เป็นสถาปัตยกรรมประเภทหนึ่งที่ระบุหลักเกณฑ์และมาตรฐานสำหรับวิธีที่แอปอาจเชื่อมต่อกับมิดเดิลแวร์ที่ทำงานบน “communication bus” ESB เป็นเครื่อมือรวมระบบประเภทหนึ่งที่มีแพลตฟอร์มส่วนกลางสำหรับการสร้าง ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาการรวมระบบต่างๆ ทำให้กระบวนการนี้เปลี่ยนจากระบบที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น

แม้ว่าโซลูชั่นการผสานระบบของ ESB จะมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงในบางสถานการณ์เท่านั้น แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่บริษัทต่างๆ ควรพิจารณา หนึ่งในนั้นคือความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเพียงจากจุดเดียวเท่านั้น เนื่องจาก ESB เป็นโซลูชั่นที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวม ในกรณีที่ ESB หยุดทำงาน ระบบทั้งหมดอาจจะล่มได้

การรวมระบบที่เป็น Native

การรมแบบที่เป็นเนทีฟหมายถึงการรวมระบบที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับแอปพลิเคชั่นนั้นๆ สิ่งนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ middleware หรือเครื่องมือรวมระบบ การรวมระบบแบบเนทีฟนั้นให้ประโยชน์มากมายรวมถึงการถ่ายโอนข้อมูลที่เชื่อถือได้มากขึ้น ความซับซ้อนที่ลดลง และต้นทุนที่ต่ำลง

อย่างไรก็ตาม การผสานรวมนี้อาจเป็นเรื่องท้าทายเมื่อจำเป็นต้องก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งหมด

Integration Solution as a Service (iSaaS)

ผู้ให้บริการ Integration Software as a Service หรือว่า (iSaaS) นำเสนอบริการผสานรวมระบบต่างๆบนระบบคลาวด์เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถเชื่อมต่อและรวมแอปพลิเคชัน แหล่งข้อมูล และบริการต่างๆ โดยไม่ต้องจัดการโครงสร้างพื้นฐานหรือซอฟต์แวร์พื้นฐาน โซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยการสื่อสารระหว่างระบบจะกลายเป็นแบบเกือบเรียลไทม์ระหว่างแอปพลิเคชันอัปสตรีมและดาวน์สตรีม

แต่ทว่า ระบบ iSaaS นั้นมีข้อเสียประการหนึ่งคือ ถ้าหากคุณกำลังพิจารณาคือฟีเจอร์การกำกับดูแลและความปลอดภัยต่างๆ เนื่องจากทุกบริษัทนั้นมีข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนและเป็นความลับจำนวนมากที่ต้องได้รับการป้องกันจากการเข้าถึงโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตและนำไฟล์เหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิด อย่างไรก็ตามโซลูชั่น iSaaS ส่วนใหญ่ไม่มีชุดการควบคุมทั้งหมดที่จำเป็นในการปกป้องกันข้อมูลของคุณ

Integration Platform as a Service (iPaaS)

Integration Platform as a Service (iPaaS) เป็นแพลตฟอร์มบนระบบคลาวด์ที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ผสานรวมให้เข้ากันและจัดการกับแอปพลิเคชั่นและแหล่งข้อมูลบนระบบคลาวด์ที่มีหลายรายการ นี่คือโซลูชั่นที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่เป็นความลับยังคงปลอดภัยในระหว่างการรวมและแลกเปลี่ยนกระบวนการข้อมูล

ข้อเสียอย่างหนึ่งของ iPaaS คือต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในระดับปานกลางเป็นอย่างน้อย ในกรณีของการสร้างการผสานรวมในองค์กร ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่จำเป็นอาจสูงกว่านี้ ซึ่งหมายความว่าการรวมการเริ่มต้นมักจะอยู่ในมือของแผนกไอทีเท่านั้น

Workato เน้นประโยชน์ของ IPaaS และแก้ไขจุดอ่อนอย่างไร

Workato เป็นผู้ให้บริการโซลูชัน iPaaS ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถผสานรวมสแต็กของคุณและทำให้ขั้นตอนการทำงานเป็นแบบอัตโนมัติโดยมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย รูปแบบรหัสต่ำ/ไม่มีรหัส (LCNC) ที่ Workato กำหนดไว้ล่วงหน้าทำให้สถานที่ทำงานเป็นประชาธิปไตย เนื่องจากผู้ใช้ปลายทางสามารถเริ่มการผสานรวมและระบุการทำงานอัตโนมัติของเวิร์กโฟลว์ให้เหมาะกับความต้องการของตนได้

ในฐานะผู้ให้บริการ iPaaS ชั้นนำในอุตสาหกรรม Workato ยังปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างเคร่งครัด เช่น SOC 2, HIPAA และ GDPR Workato มีการเข้าถึงตามบทบาท ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดได้ว่าใครจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงอะไรบ้าง