Blog

มุมมองใหม่ของการทำธุรกิจด้วยระบบ E-Commerce

ด้วยการผ่อนคลายของมาตรการล็อกดาวน์และเศษฐกิจที่เข้าสู่การฟื้นตัวที่ดีขึ้นเรื่อยๆ e-commerce จึงมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากหลายบริษัทนั้นถูกสถานการณ์บังคับให้จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงการมีตัวตนให้มากขึ้นบนโลกออนไลน์ ทั้งหมดเพื่อปรับตัวและส่งเสริมความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้าในช่วงเวลาและสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ e-commerce ในส่วน front-end นั้นไม่ใช่ส่วนเดียวที่ธุรกิจจำเป็นจะต้องจัดการ การแยกระบบส่วน back-end ออกเช่น ระบบการเงิน การดูแลเรื่องคำสั่งซื้อ และระบบการจัดการสินค้าในคลัง ในขณะที่ระบบเว็บไซต์ e-commerce อาจจะทำให้เกิดความไม่มั่นคงในระบบและลดประสิทธิภาพในการทำงานได้ ด้วยการป้อนข้อมูลด้วยตัวเองจากคำสั่งซื้อออนไลน์หรือการนำเข้าระบบอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการประมวลข้อมูลและข้อผิดพลาดได้ ปัญหาเกี่ยวกับคำสั่งซื้อและสินค้าในคลังอาจจะสร้างประสบการณ์ในการช็อปปิ้งที่ไม่ดีพอให้กับลูกค้า เช่น ความล่าช่าในการจัดส่งหรือสินค้าหมดโดยที่ไม่มีการแจ้งก่อน ซึ่งอาจส่งผลให้กับอัตรา Conversion และการเก็บรักษาสินค้าลงในภายหลัง

ธุรกิจบางแห่งพยายามเชื่อมโยงระบบที่ไม่มีการเชื่อมต่อเหล่านี้เข้าด้วยกันโดยการอาศัยเครื่องมือของ third-party เพื่อประมวลผลการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบกลายเป็นข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือและต้องมีค่าใช่จ่ายในเรื่องค่าธรรมเรียมที่เพิ่มขึ้นและการบำรุงรักษาที่จะต้องมีอย่างต่อเนื่อง เช่น การผสานรวมระบบ แอปพลิเคชั่นเสริมที่จำเป็นจะต้องใช้ ส่วนขยายโปรแกรมต่างๆ และเกตเวย์ในการชำระเงิน ปัจจัยเหล่านี้สามารถลดประสิทธิภาพในการทำงานได้

ต่อไปนี้เป็นลักษณะทั่วไปบางประการของความท้าทายด้าน e-commerce:

ประสบการณ์ที่มีส่วนร่วมระหว่างแผนก

วิธีที่จะดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆและเปลี่ยนการเข้าชมเว็บไซต์ให้เป็นยอดขาย ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า เมื่อมีการซื้อสินค้าครั้งแรกแล้ว ประสบการณ์ในการซื้อครั้งที่สองต้องตามมา ธุรกิจจำเป็นต้องให้คุณค่ากับการซื้อครั้งต่อๆไปมากกว่าการทำธุรกิรรมครั้งแรกของลูกค้า

แม้ว่าการที่มีลูกค้าเข้ามาใหม่จะมีความสำคัญแล้ว แต่การเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ของลูกค้าและมูลค่าตลอดการใช้งานนั้นมีความสำคัญต่อธุรกิจในระยะยาวเช่นกัน โดยที่ธุรกิจต่างๆจำเป็นต้องทำการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการบนเว็บไซต์ โดยไม่เพียงแค่พึ่งคุณภาพของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังต้องหาวิธีเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยและความถี่ในการซื้อด้วย

ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้าที่อยู่ในคลัง

การมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ที่ดีโดยไม่คำนึงถึงสินค้าในคลังว่าพร้อมสำหรับการจัดส่งหรือไม่ อาจจะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ทำให้ส่งผลกระทบอีกต่อนึงให้กับมูลค่าของแบรนด์และความไว้วางใจของลูกค้าได้ การไม่สามารถแสดงสินค้าที่มีในสต็อกบนเว็บไซต์ของคุณจะทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถทำการตัดสินใจในการซื้อได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้แล้ว หากไม่มีข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ จากจัดการสินค้าในคลังจะไม่ซิงโครไนซ์กับจำนวนสินค้าในคลังให้ตรงกับจำนวนที่ขายไปแล้วได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้สูญเสียยอดขาย ในขณะเดียวกัน เมื่อธุรกิจมีสต็อกสินค้าที่มีความนิยมสูงจนล้นสต็อกอาจจะส่งผลให้เกิดสินค้าที่ค้าสต็อกและมีผลกระทบต่อกระแสเงินสดภายในบริษัทอีกด้วย

การจัดการคำสั่งซื้อ

บริษัทที่ไม่ได้ใช้งานแพลตฟอร์มเดียวในการดำเนินงานทางธุรกิจ เช่นระบบจัดการคำสั่งซื้อต่างๆนั้น จะเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินงานตามคำสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ ความล่าช้าในการดำเนินการและจัดการกับคำสั่งซื้อนั้นจะส่งผลกระทบต่อระดับความพึงพอใจของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกค้าสามารถเปลี่ยนไปใช้แบรนด์หรือผู้ขายอื่นที่เป็นคู่แข่ง นอกจากนี้แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่พอใจอย่างมากหากเกิดข้อผิดพลาดในคำสั่งซื้อของพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดีที่สุดแก่พวกเขาเพื่อรักษาความภักดีต่อแบรนด์ของคุณ

ระบบการจัดการคำสั่งซื้อที่มีการทำงานที่เป็นหนึ่งเดียวกับระบบ e-commerce สินค้าในคลัง และการเงิน ที่จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า นอกจากนี้แล้วยังช่วยลดต้นทุนแรงงานและค่าขนส่ง และเพิ่มอัตรากำไร

รวม e-commerce เข้ากับระบบธุรกิจของคุณ

เป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการตอบโต้และเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า เมื่อข้อมูลลูกค้า  คำสั่งซื้อ สินค้าในคลัง และข้อมูลทางการเงินของคุณถูกเก็บไว้ในระบบที่มีความเป็นไซโลและแยกจากกัน คู่มือนี้ทำงานเพื่อจำลองแหล่งข้อมูลของคำสั่งซื้อ ข้อมูลผลิตภัณฑ์และราคาในโซลูชั่น e-commerce และระบบธุรกิจของคุณซึ่งไม่ได้ผลและอาจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้

เมื่อระบบ e-commerce รวมเป็นระบบเดียวกับ ERP, CRM, ระบบการจัดการกับคำสั่งซื้อและสินค้าในคลัง ธุรกิจจะสามารถมองเห็นทุกมุมมองของธุรกิจได้แบบเรียลไทม์ การผสานรวมระบบ e-commerce ทั้ง front-end และ back-end ไว้ด้วยกันจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ระบบทั้งหมดจะทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น และองค์กรไม่จำเป็นต้องจัดการแยกระบบและป้อนข้อมูลด้วยตนเอง

Oracle NetSuite SuiteCommerce

SuiteCommerce คือโซลูชั่น e-commerce ของ Oracle NetSuite รวมเป็นหนึ่งเดียว โดยที่รวมแอปพลิเคชั่นทางธุรกิจของ NetSuite เข้าด้วยกัน ทำให้บริษัทต่างๆสามารถจัดการธุรกิจทั้งหมดให้เป็นโซลูชั่นเดียว ช่วยให้แหล่งข้อมูลลูกค้า คำสั่งซื้อ และข้อมูลสินค้าในคลังทั้งหมดอยู่ในที่เดียว ให้การมองเห็นระบบทั้งหมดเป็นแบบเรียลไทม์แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ช่วยให้ธุรกิจทำการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการได้ทันที

นอกจากนี้ SuiteCommerce ยังช่วยให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ ถูกจัดเก็บไว้ใน Back Office ของระบบ Oracle NetSuite ได้แบบเรียลไทม์ และมอบมุมมองที่สมบูรณ์เกี่ยวกับกิจกรรมและประสบการณ์ของลูกค้าของคุณ ด้วยการดำเนินการระบบทั้งหมดไว้ภายใต้ระบบเดียว ช่วยให้องค์กรเห็นต้นทุนรวมในการใช้โซลูชั่นที่มีต้นทุนต่ำกว่าที่อื่น


Oracle NetSuite SuiteCommerce


Oracle NetSuite SuiteCommerce เป็นแพลตฟอร์ม SaaS อีคอมเมิร์ซแบบหลายผู้เช่าที่ให้ผู้ค้าได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่น่าตื่นเต้นและพิเศษ

Share this post

Please fill out the details below.

Event Registration 1

This form is created for another event registration.

"*" indicates required fields

**This event has limited seats available.