เหตุใดการรวมระบบคลาวด์จึงมีความสำคัญ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Software as a Service (SaaS) ได้กลายเป็นรูปแบบธุรกิจยอดนิยมที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันและบริการซอฟต์แวร์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต แต่ทว่า SaaS นั้นมีข้อดีหลายประการเหนือซอฟต์แวร์รุ่นดั้งเดิม รวมถึงช่วยให้บริษัทต่างๆ เพลิดเพลินไปกับความสามารถในการปรับขนาดของซอฟต์แวร์ การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ และการรักษาความปลอดภัยที่แอปเหล่านี้มีให้

ด้วยเหตุผลนี้ บริษัทจำนวนมากได้ตัดสินใจในการลงทุนอย่างมากในระบบ SaaS เพื่อช่วยให้ได้รับผลประโยชน์และได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจมากกว่าคู่แข่ง ธุรกิจต่างๆ ทีใช้โซลูชั่น SaaS ที่มีความหลากหลายเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องที่มีในธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การย้ายจากแพลตฟอร์มที่ใช้อยู่ไปยังระบบ SaaS นั้นทำให้เราพบกับความท้าทายใหม่ๆ นั้นคือ ไซโลของข้อมูล

เมื่อไม่ได้มีการรวมโซลูชั่นที่มีความแตกต่างเข้าด้วยกัน ข้อมูลที่มากจากหลายแหล่งที่มีความแตกต่างกันนั้นทำให้ต้องมีการทำความเข้าใจกับข้อมูลอย่างมากและมีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดและการใส่ข้อมูลต่างๆซ้ำ

สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่ผลลัพธ์เชิงลบของการทำธุรกิจ รวมถึงการที่ธุรกิจไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยช์นให้กับธุรกิจ การที่พนักงานจำเป็นจะต้องใส่ข้อมูลซ้ำๆเดิมๆด้วยตนเอง และความจำเป็นที่พนักงานที่จะต้องสลับแอปไปมาเพื่อดึงข้อมูลต่างๆในระบบ

อะไรคือการรวมระบบคลาวด์

การรวมระบบคลาวด์ คือ กระบวนการของการรวมแอปพลิเคชั่นในการ บริการ และข้อมูลบนระบบคลาวด์ จากข้อมูลที่มีความแตกต่างกันเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันภายใต้แพลตฟอร์มเดียวที่ ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลและแอปพลิเคชั่นของบริษัทได้จากทุกที่และทุกเวลา จากอุปกรณ์ใดก็ได้ ในขณะเดียวกันก็มอบสภาพแวดล้อมด้านไอทีแบบครบวงจรที่สามารถปรับปรุงความคล่องตัวทางธุรกิจได้

การรวมระบบคลาวด์มีความเกี่ยวข้องกับซอฟแวร์ต่างๆ รวมถึงระบบ API จากแอปและบริการคลาวด์ที่แตกต่างกันอกไป ช่วยให้แอปพลิเคชั่นและซอฟต์แวร์ต่างๆที่ทางธุรกิจใช้ สามารถสื่อสารถึงกันได้ ด้วยการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นและบริการบนคลาวด์ที่แตกต่างกันมาใช้งานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นี้เป็นเหตุผลบางประการสำหรับการนำการรวมระบบคลาวด์ไปใช้:

ยกเลิกการทำข้อมูลแบบไซโล

“ไซโลข้อมูล” หมายถึงวิธีการเก็บข้อมูลแยกไว้ในที่ถึงที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่สามารถแชร์ข้อมูลเหล่านี้กับส่วนอื่นๆของบริษัทได้ ซึ่งการมีไซโลประเภทนี้อาจจะเป็นการนำไปสู่ปัญหาได้

กรณีศึกษาทั่วไปของไซโลข้อมูลคือเมื่อแผนกหรือทีมต่างๆ ภายในบริษัทรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลของตนโดยอิสระ โดยไม่แบ่งปันกับแผนกหรือทีมอื่น

ตัวอย่างเช่น เมื่อแผนกทรัพยากรบุคคลเก็บข้อมูลพนักงาน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล การตรวจสอบประสิทธิภาพ และบันทึกการฝึกอบรม เมื่อแผนกอื่นๆ เช่น IT อาจจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลนี้เพื่อจัดการระบบของบริษัท

อย่างไรก็ตาม หากแผนกทรัพยากรบุคคลไม่มีกระบวนการที่เป็นมาตรฐานสำหรับการแบ่งปันข้อมูลกับแผนกอื่นๆ เมื่อพนักงานในแผนกอื่นๆ มีการร้องขอการเข้าถึงข้อมูลในส่วนนี้ อาจจะทำให้เกิดความล่าช้าในการเข้าถึงข้อมูลและขาดประสิทธิภาพในการทำงาน

การรวมระบบคลาวด์นั้นเป็นโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันข้อมูลและช่วยทำลายการจัดการข้อมูลแบบไซโล โดยการรวมข้อมูลไว้ในที่เดียวและกำหนดรูปแบบข้อมูลให้มีความเป็นมาตรฐาน เมื่อข้อมูลต่างๆสามารถเคลื่อนส่งต่อไปตามแผนกและทีมต่างๆได้ จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมของการแบ่งปัน และลดโอกาสในการสร้างไซโลใหม่

สร้างกระบวนการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การรวมระบบคลาวด์สามารถทำให้ระบบเวิร์กโฟลว์เป็นไปอย่างอัตโนมัติและคล่องตัวในการทำงานของแผนกและทีมต่างๆ ทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดหรือความล่าช้า

ด้วยการสร้างกระบวนการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการรวมระบบคลาวด์ บริษัทต่างๆ สามารถลดต้นทุน ปรับปรุงความแม่นยำ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญกว่า เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจ แทนที่จะใช้เวลาในการป้อนข้อมูลด้วยตนเองหรืองานด้านการจัดการอื่นๆ

ลดข้อผิดพลาดของมนุษย์

หนึ่งในข้อดีของการรวมระบบคลาวด์คือการช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นของมนุษย์ได้

เมื่อระบบและแอปพลิเคชั่นต่างๆที่ใช้งานในธุรกิจไม่ได้มีการรวมระบบเข้าด้วยกัน จึงต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่งด้วยตนเอง ขั้นตอนนี้อาจจะเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและเสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายจากการที่พนักงานจำเป็นจะต้องป้อนข้อมูลด้วยตนเอง

ด้วยการรวมเข้ากับระบบคลาวด์ ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างแผนกและระบบได้โดยอัตโนมัติ ลดความจำเป็นในการป้อนข้อมูลด้วยตนเอง และลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด

Workato เพิ่มประสิทธิภาพในข้อดีของการรวมระบบคลาวด์และข้อตกลงที่มีข้อจำกัดได้อย่างไร

Workato ปรับปรุงประโยชน์ของการรวมระบบคลาวด์และจัดการข้อจำกัดโดยการจัดสร้างแพลตฟอร์ม Low-Code/No-Code (LCNC) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมสแต็กเทคโนโลยีของตนและทำให้เวิร์กโฟลว์เป็นอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย

ด้วยการใช้มาตรฐานความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด (เช่น: SOC 2, HIPAA และ GDPR) Workato จึงนำเสนอชุดตัวเชื่อมต่อที่สร้างไว้ล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพ และให้ความสามารถในการตรวจสอบและบันทึกตามเวลาจริงเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้

บทสรุป

การรวมระบบคลาวด์สามารถช่วยองค์กรในการขจัดไซโลข้อมูล สร้างกระบวนการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการรวมระบบคลาวด์อาจก่อให้เกิดความท้าทาย รวมถึงความซับซ้อน ต้นทุน และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่อาจเกิดขึ้น

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ธุรกิจควรประเมินความต้องการในการรวมระบบคลาวด์อย่างรอบคอบ และเลือกโซลูชันที่สอดคล้องกับเป้าหมายและข้อกำหนดของทางบริษัท การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้านโซลูชันที่เข้าใจความต้องการทางธุรกิจของคุณและนำเสนอชุดโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับปัญหาสำคัญต่างๆ ที่ธุรกิจของคุณจะต้องเผชิญอยู่