Workato: ทำให้ Hyperautomation เป็นเรื่องง่าย

ระบบอัตโนมัติ (Automation), ไฮเปอร์ออโตเมชั่น (Hyperautomation), ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence), การเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning), การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และอีกมากมาย นั้นถือว่าเป็นศัพท์ทางเทคนิคที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งในการทำงานบนระบบดิจิทัล ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการสับสนได้ว่าคำศัพท์ไหนหมายถึงอะไร แต่ทว่าภายใต้คำศัพท์มากมายเหล่านี้ มีคำๆนึงที่เราอยากจะให้ความสำคัญคือ Hyperautomation 

ผู้ให้บรการเทคโนโลยีโซลูชั่นหลายรายอาจจะเริ่มใช้คำว่า ไฮเปอร์ออโตเมชั่นกันอย่างกว้างขวาง แต่ว่าเราอาจจะไม่รู้ว่าฟังก์ชั่นของการทำงานของคำคำนี้นั้นมีอะไรบ้าง โดยที่การำทงานแบบ ไฮเปอร์ออโตเมชั่นนั้นเป็นกระบวนการอัตโนมัติที่เปรียบเหมือนเครื่องมือวิเศษที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและทำให้การดำเนินงานที่เป็นอัตโนมัติที่เป็นไปได้ดีมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม คำว่า ไฮเปอร์ออโตเมชั่น นั้นจำเป็นจะต้องถูกอธิบายให้มากยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้คนอื่นสามารถเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน

ความหมายของ “Hyperautomation”

ไฮเปอร์ออโตเมชั่น นั้นเป็นกลยุทธ์การทำงานและเป็นระบบที่องค์กรต่างๆใช้เพื่อช่วยระบุ ประเมิน และทำให้กระบวนการทางธุรกิจและไอทีนั้นกลายเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว การทำงานที่มีประสิทธิภาพนี้มีการเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีที่นำสมัยใหม่ๆ อย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเรียนรู้ของเครื่องจักร สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุการณ์ การทำให้กระบวนการทำงานอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ (RPA) และการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ (BPM) นอกจากนี้ยังรวมถึงชุดการจัดการกระบวนการทางธุรกิจอัจฉริยะ (iBPMS) แพลตฟอร์มบูรณาการในรูปแบบบริการ (iPaaS) เครื่องมือแบบโลว์โค้ด/โนโค้ด ซอฟต์แวร์แบบแพ็คเกจ และเครื่องมืออัตโนมัติในการตัดสินใจ กระบวนการ และงานอื่น ๆ

ระบบ ไฮเปอร์ออโตเมชั่น ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับความแม่นยำและความสม่ำเสมอของการทำงาน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดจากการทำงานด้วยตนเอง เพื่อรักษาคุณภาพในการทำงานที่มีความสม่ำเสมอ การผสานรวมเทคโนโลยีระดับสูงหลายอย่าง เช่น AI, Mahcine Learning และ การทำงานแบบอัตโนมัติของหุ่นยนต์ ช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้การตัดสินใจในการทำงานเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพด้วยการทำผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้ธุรกิจมีข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าและปรับปรุงการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดีมากขึ้น

นอกจากนี้แล้ว ระบบยังสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพในการปรับขนาดของธุรกิจ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถจัดการกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มต้นทุนในการทำงานหรือว่าทรัพยากร ท้ายที่สุดแล้ว ระบบ ไฮเปอร์ออโตเมชั่น จะช่วยขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆและมอบข้อได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการปรับกระบวนการให้มีประสิทธิภาพ ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่กำหนดไว้ในแต่ละประเทศ

ความท้าทายของระบบ Hyperautomation

แม้ว่าระบบไฮเปอร์ออโตเมชั่นนั้นจะมีศักยภาพที่ช่วยในเรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินงานทางธุรกิจโดยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ทว่า การนำระบบนี้ไปใช้นั้นมักจะต้องใช้เครื่องมือหลายๆอย่างเพื่อช่วยให้กระบวนการสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ด้วยเหตุนี้ อาจจะนำไปสู่ปัญหาต่างๆที่ตามมาภายหลังได้

อุปสรรคที่หลายๆองค์กรมักจะพบเจอในเรื่องการเปลี่ยนระบบการทำงานมาเป็นระบบอัตโนมัตินั้นคือ ต้นทุนที่สูงขึ้น ธุรกิจต่างๆ นั้นจำเป็นจะต้องลงทุนซื้อเครื่องมือ ต่างๆ สำหรับ RPA, Data Pipeline, การจดการกระบวนการทางธุรกิจ, ChatBot AI และระบบอื่นๆอีกมากมาย ทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งอาจจะไม่เป็นผลที่ดีต่อสถานะทางการเงินของทางองค์กร

การจัดการกับเครื่องมือในการทำงานต่างๆ ภายในระบบอินเทอร์เฟซที่มีผู้ใช้รวมกันอยู่หลายส่วนในแอปพลิเคชั่นเดียวกันนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วน่ากังวลและอาจทำให้เกิดความสับสนและอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดและเกิดความล้มเหลวได้ ความจำเป็นในการให้การสนับสนุนกับนักพัฒนาและการบริการของลูกค้าที่ครอบคลุมในทุกอย่างและมีความต่อเนื่องในการทำงาน นี้ทำให้กระบวนการทำงานนั้นมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้การเขียนโค้ดและความรู้ภาษาการเขียนโค้ดที่มีความซับซ้อนที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการเขียนโค้ด นอกจากนี้แล้ว การใช้ระบบร่วมกับเครื่องมือต่างๆยังจำเป็นต้องใช้ทีมผู้เชี่ยวชาญหลายๆทีม ซึ่งอาจจะกลายเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่มีความรู้หรือว่าทักษะการใช้งานทางเทคนิดเพียงแค่ขั้นพื้นฐาน

ด้วยความท้าทายดังกล่าว ธุรกิจต่างๆ มักจะระมัดระวังในการใช้เครื่องมือไฮเปอร์ออโตเมชั่น แม้ว่าจะมีข้อดีที่ชัดเจนก็ตาม ซึ่งตรงนี้เองที่แพลตฟอร์ม iPaaS เช่น Workato ที่มีประโยชน์สำหรับธุรกิจ

เครื่องมือ Hyperautomation ของ Workato

ระบบแพลตฟอร์ม iPaaS บนระบบ Cloud ของ Workato นั้นช่วยนำเสนอการผสานรวมโซลูชั่นต่างๆผ่านการทำงานแบบ low-code / no-code และช่วยมอบกระบวนการทำงานที่ทำได้อย่างง่ายดาย เพื่อช่วยในเรื่องการปลดล็อกการทำงานแบบอัตโนมัติของระบบเวิร์กโฟลว์ในธุรกิจ ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ผ่านระบบแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งช่วยขจัดความจำเป็นในการใช้แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชั่นหลายตัวหรือจ้างทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อเข้าทำช่วยในเรื่องการทำงาน

ผู้ใช้งานระบบสามารถรวมโซลูชั่นทั้งหมดที่องค์กรใช้มาไว้ภายในระบบเดียว และช่วยให้สามารถระบุว่างานชนิดไหนสามารถทำให้ระบบการทำงานเป็นอัตโนมัติได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นจะต้องเขียนโค้ดเพิ่ม ทำให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นการทำงานของพวกเข้าไปในด้านงานเชิงกลยุทธ์ที่สามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้

เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการ ไฮเปอร์ออโตเมชั่น แบบดั้งเดิมที่องค์กรเคยใช้ Workato นั้นถือว่าเป็นโซลูชั่นที่คุ้มทุนที่สุดสำหรับหลายๆองค์กร เนื่องจากระบบสามารถช่วยเพิ่มผลตอบเทนจากการลงทุนให้กับผู้ถือหุ้น และช่วยเพิ่มการเติบโตให้กับองค์กร ทำให้ช่วยมั่นใจได้ว่าการลงทุนกับระบบนี้จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย

บทสรุป

แพลตฟอร์มรวมแบบ low-code/no-code ของ Workato นำเสนอโซลูชันที่ปรับให้เหมาะสม ช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องมือและทีมงานเฉพาะทางจำนวนมาก เมื่อนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ไฮเปอร์ออโตเมชั่นจะขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรม มอบความได้เปรียบทางการแข่งขัน และอำนวยความสะดวกในการเติบโตทางธุรกิจ