Blog

วิธีรับประโยชน์สูงสุดจากธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบ Omnichannel ของคุณ

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การค้าปลีกแบบ Omnichannel นั้นได้กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการมาถึงโลกดิจิทัล ซึ่งเป็นความเชื่อที่ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่มีอยู่ โดยที่การมาถึงของเทคโนโลยีนั้นไม่ได้มาล้มล้างร้านค้าที่ตั้งอยู่

กลยุทธ์การค้าปลีกแบบ Omnichannel นั้นช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกในการซื้อสินค้าจากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าที่ตั้งอยู่หรือว่าร้านค้าออนไลน์ ผ่านบนแอพสมาร์ทโฟนหรือบนโซเชียลมีเดียจากนั้นลูกค้าสามารถเลือกการจัดส่งสินค้าที่ซื้อได้ตามที่ต้องการด้วยการเลือกวิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการไปรับสินค้าจากร้านหรือว่าการจัดส่งถึงบ้าน

การค้าปลีกแบบ Omnichannel นั้นแตกต่างจากวิธีการขายแบบ Multi-channel ด้วยการประสานแพลตฟอร์มทั้งหมดที่บริษัทเข้าด้วยกัน ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่น ซึ่งหมายความว่าข้อเสนอและราคาของผู้ค้าจะเหมือนกันไม่ว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าในร้านค้าจริง ร้านค้าออนไลน์ แอพสมาร์ทโฟน หรือโซเชียลมีเดีย

โดยที่ Harvard Business Review ได้ทำการศึกษาระยะเวลานานว่า 14 เดือนโดยที่มีการเกี่ยวข้องกับลูกค้ามากกว่า 46,000 รายพบว่า กว่า 73% ของลูกค้านั้นได้เลือกใช้ช่องทางที่มีความหลากหลายในเส้นทางการช้อปปิ้งของพวกเขา และการศึกษาข้อมูลนี้ยังเผยให้เห็นว่า มีเพียงแค่ 7% ของจำนวนลูกค้าที่ระบุตัวเองว่าเป็นนักช็อปปิ้งออนไลน์ และอีก 20% นั้นเป็นนักช็อปสินค้าจากหน้าร้านเท่านั้น

การดำเนินกลยุทธ์ค้าปลีกแบบ Omnichannel จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องอาศัยการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ลูกค้าที่ซื้อของกับร้านค้าแบบ Omnichannel นั้นมีความคาดหวังประสบการณ์ที่ราบรื่นในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงเมื่อพวกเขาเลือกระหว่างช่องทางต่างๆ ความคาดหวังนี้จึงตกอยู่ที่ผู้ค้าปลีกที่จะให้ความต้องการตามที่ลูกค้าคาดหวังไว้

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตามกลยุทธ์การค้าแบบ Omnichannel นั้นเป็นกระบวนการที่เต็มไปด้วยความล่าช้าและลำบาก นี้เป็นผลจากการความล้มเหลวของธุรกิจในการดำเนินการเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลและการตัดสินใจที่จะดำเนินการบนระบบเดิมต่อ ทำให้พวกเขาอยู่ภายใต้ความเมตตาของคู่แข่งที่ได้ทำการติดตั้งเทคโนโลยีที่พร้อมใช้งานสำหรับยุคดิจิทัลเช่น ERP บนระบบคลาวด์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติและมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่

การวิจัยที่จัดทำโดย Econsultancy เกี่ยวกับร้านค้าแบบ Omnichannel ในอินโดนีเชียได้มีการเปิดเผยว่ากว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามทำงานบนระบบนั้นไม่สามารถให้ข้อมูลลูกค้าผ่านช่องทางการขายต่างๆได้ ในขณะเดียวกัน 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าระบบของพวกเขานั้นไม่มีความสามารถพอในการรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอและทำให้พวกเขาต้องจัดการกับข้อมูลด้วยตนเอง 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าข้อมูลที่เข้ามาในระบบนั้นมากเกินกว่าที่ระบบของพวกเขาจะจัดการได้

Omnichannel Retail

ในสภาพแวดล้อมที่ลูกค้านั้นสลับกันไปมาระหว่างช่องทางการซื้อต่างๆนั้น บ่อยครั้ง เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะทิ้งธุรกิจที่มีข้อมูลจำนวลมหาศาลไว้เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม การวิจัยโดย Neustar ได้แสดงให้เห็นว่าข้อมูลเหล่านี้นั้นจะล้าสมัยภายในสองปี งานวิจัยนี้อ้างอิงจากตัวเลขของสหรัฐอเมริกา ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่ว่า 37% ของคนในสหรัฐฯ เปลี่ยนรายละเอียดการติดต่อภายในหนึ่งปี ระบบที่แตกต่างกันที่ทำงานบนโซลูชั่นเดิมทำให้ข้อมูลที่มีค่าเหล่านี้กลายเป็นข้อมูลที่ล้าสมัย

การขาดการรวมข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวกันแบบเรียลไทม์นั้นอาจจะทำให้ธุรกิจเกิดความเสียหายต่อผู้ค้าปลีกแบบ Omnichannel ได้เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้

ด้านล่างนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลผ่านการโยกย้ายไปยังระบบคลาวด์และการใช้โซลูชั่นเช่น Cloud ERP สามารถช่วยให้ผู้ค้าปลีกแบบ Omnichannel ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่ตามที่กลยุทธ์ของตนสมควรได้รับอย่างเต็มที่ได้อย่างไร

มุมมองข้อมูลแบบ 360 องศาแบบเรียลไทม์

ในวันที่หน่วยงานภายในธุรกิจได้หยุดการทำงานแบบไซโล เพื่อให้กลยุทธ์การค้าแบบ Omnichannel นั้นประสบความสำเร็จ ทุกคนจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจและทำงานรวมกันได้อย่างราบรื่น

เนื่องจากผู้บริโภคมักจะสลับช่องทางการซื้อเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาต้องการบนอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ค้าแบบ Omnichannel ที่จำเป็นจะต้องมีภาพรวมเกี่ยวกระบวนการทางธุรกิจทั้งหมดของพวกเขา

โดยโซลูชั่น Cloud ERP ช่วยให้ผู้ค้าปลีกแบบ Omnichannel มีมุมมองที่สมบูรณ์แบบของลูกค้าและสามารถรับข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ทำให้พวกเขาสามารถดำเนินการร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ทุกเมื่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของความต้องการ

ความสามารถในการปรับขนาด

การดำเนินการธุรกิจแบบ Omnichannel นั้นมีความสามารถในการรองรับการขยายของธุรกิจที่จะเริ่มขยายขึ้นเมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต ระบบเดิมมักจะกลายเป็นปัญหาด้วยสถาปัตยกรรมที่รัดกุมซึ่งไม่อนุญาตให้ธุรกิจปรับแต่งระบบหรือเพิ่มฟังก์ชั่นตามที่ต้องการได้

ผู้ค้าปลีกแบบ Omnichannel ที่ดำเนินงานระบบน ERP แบบดั้งเดิมมักจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มจำนวนมากในการพยายามรวมระบบเดิมที่มีอยู่เข้ากับระบบใหม่ ปัญหาของกระบวนการนี้คือระบบดั้งเดิมนั้นจะมีกระบวนการเติบโตที่มีความจำกัด หลังจากการทำซ้ำไม่กี่ครั้ง มีโอกาสสูงที่คุณจะไม่สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นเพิ่มเติมให้กับระบบเดิมที่ใช้อยู่ได้ ซึ่งจะทำให้โอกาศในการก้าวเข้าไปสู่ตลาด Omnichannel นั้นหมดไป

ในทางกลับกัน ระบบ Cloud ERP ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจในโลกดิจิทัลเป็นไปได้อย่างราบรื่นด้วยการอาศัยสถาปัตยกรรมของระบบ ด้วยระบบสถาปัตยกรรมที่มีความรวดเร็ว ช่วยให้คุณสามารถปรับขนาดของระบบและเพิ่มคุณสมบัติต่างๆได้ตลอดเวลาบนพื้นฐานซอฟต์แวร์ในรูปแบบบริการ (SaaS)

การรวมข้อมูล

ลูกค้าที่ทำการซื้อของผ่านระบบแพลตฟอร์ม e-commerce นั้นจำเป็นจะต้องกรอกรายละเอียดส่วนตัวจำนวนมากขณะลงทะเบียนก่อนที่จะมีการตัดสินใจซื้อ ความโฟล์วของข้อมูลนั้นจะมีจำนวนที่เยอะมากเนื่องจากข้อมูลนั้นมาจากหลายช่องทาง รวมถึงข้อมูลที่ลูกค้าอาจจะเปลี่ยนแปลงอีกด้วย

ในการให้บริการชั้นยอดแก่ลูกค้า ผู้ค้าปลีกแบบ Omnichannel จำเป็นต้องรวมข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดบนแพลตฟอร์มเดียว

ด้วยการโยกข้อมูลทั้งหมดไปยังระบบคลาวด์โดยการใช้โซลูชั่นเช่น ระบบ ERP บนคลาวด์ ผู้ค้าปลีกในระบบ Omnichannel จะได้รับการนำเสนอระบบโซลูชั่นที่ใช้โค้ดการรวมระบบที่น้อย จนถึงไม่จำเป็นจะต้องใช้เลย เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น รวมถึงการรายงานผลในระดับสูงสุด

Oracle NetSuite for Retail/E-Commerce

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ค้าปลีกแบบ multi-channel แบรนด์ หรือโมเดลธุรกิจที่ขายในหลายภูมิภาคและหลายประเทศ Oracle NetSuite for Retail/e-Commerce ช่วยให้คุณจัดการธุรกิจทั้งหมดของคุณให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยระบบคลาวด์ที่ทำงานได้ใน ทุกที่และทุกเวลา

Share this post

Please fill out the details below.

Event Registration 1

This form is created for another event registration.

"*" indicates required fields

**This event has limited seats available.