ปี 2021 เป็นปีสำหรับบริษัทยูนิคอร์นและเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ยูนิคอร์นได้ตั้งต้นตัวเองเป็นแกนนำในการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจตั้งแต่ต้น และคำว่า “ยูนิคอร์น” นั้นใช้เพื่ออธิบายถึงธุรกิจสตาร์ทอัพส่วนตัวหรือธุรกิจร่วมทุนที่ได้รับการสนับสนุนซึ่งมีมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือมากกว่านั้น ซึ่งเป็นการประสบความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก และนี้คือสิ่งที่ทำให้ Aileen Lee ผู้ร่วมทุนในปี 2013 ริเริ่มการใช้คำว่า “ยูนิคอร์น” เพื่อใช้เรียกบริษัทที่มีมูลค่าถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป

เมื่อเวลาผ่านไป ระยะเวลาที่ธุรกิจยุคดิจิทัลใช้เพื่อก้าวสู่สถานะยูนิคอร์นนั้นเริ่มสั้นลงเรื่อยๆ

บริษัทอย่าง Twitter ใช้เวลาเพียง 3 ปีในการมีมูลค่าถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐและกลายเป็นยูนิคอร์น ในขณะที่ Instagram และ YouTube ใช้เวลาเพียงแค่สองปีและหนึ่งปีตามลำดับ บริษัทเหล่านี้กำลังรักษาแนวโน้ม เพื่อให้เข้าใจตรงกัน Prada ต้องใช้เวลาถึง 98 ปีจึงจะมีมูลค่าถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขณะนั้น Mario Prada ผู้ก่อตั้งของ Prada ได้เสียชีวิตลงแล้ว ร้านค้าปลีกกาแฟ Starbucks ใช้เวลา 24 ปีในการเป็นยูนิคอร์น ในขณะที่ Harley Davidson และ Nike ใช้เวลา 24 ปี และ 86 ปีตามลำดับ

ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว มีบริษัทยูนิคอร์นกว่า 801 ทั่วโลก โดย 40% จะเกิดขึ้นในปี 2021 ในขณะเดียวกัน รายงานของ Credit Suisse ประมาณการว่ามียูนิคอร์น 35 บริษัทในภูมิภาคอาเซียน บริษัท 19 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่าถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 เพียงปีเดียว

การก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วในเรื่องเทคโนโลยีช่วยสนับสนุนบริษัทสมัยใหม่ให้กลายเป็นบริษัทยูนิคอร์นจากจำนวนบริษัทยูนิคอร์น 801 บริษัทรอบโลก 19.1% เป็นธุรกิจ Fintech 16.5% เป็นบริษัทโซลูชั่นซอฟต์แวร์ 10.7% เป็นธุรกิจ e-commerce โดยตรงกับผู้บริโภค 8.7% เกี่ยวข้องกับ AI และอีก 7.1% เป็นธุรกิจเกี่ยวกับอุสาหกรรมเรื่องดูแลสุขภาพ ตัวเลขนี้ไม่แตกต่างกันสำหรับอาเซียน – ตามที่เปิดเผยโดยรายงาน Credit Suisse ฉบับเดียวกัน – โดย 26% ของยูนิคอร์นมาจากอุตสาหกรรมฟินเทค ตามมาด้วยอีคอมเมิร์ซ (20%) โลจิสติกส์ (11%) และอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย ( 8%).

สิงคโปร์นั้นเป็นผู้นำด้วยยูนิคอร์น 15 ราย หลังจากที่ล่าสุดมีการเพิ่ม Carro ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม e-commerce สำหรับรถยนต์มือสองและ Ninjavan ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไปยังสโมสรมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สิงคโปร์นับโรงไฟฟ้าเช่น Carousell และ PropertyGuru อยู่ในกลุ่มยูนิคอร์นแล้ว ในขณะเดียวกัน อินโดนีเซียมียูนิคอร์นมากเป็นอันดับสองโดยมี 11 ราย รองลงมาคือไทยและมาเลเซียที่มีตัวละ 3 ราย เวียดนามที่มี 2 ราย และฟิลิปปินส์ที่มี 1 ราย

ด้วยจำนวนประชากรในกลุ่มชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นในทุกๆวัน และเนื่องจากค้นพบข้อเท็จจริงในเรื่องว่ามีประชากรมากกว่า 200 ล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร โดยที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับธุรกิจยุคดิจิทัล หากมีอะไรเกิดขึ้น การล็อกดาวน์ที่จำเป็นจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ช่วยเร่งการยอมรับ e-commerce และ e-wallet ในหมู่ประชากรกลุ่มใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แต่ทว่า มีความท้าทายมากมายรออยู่ข้างหน้าสำหรับธุรกิจในภูมิภาคนี้ที่สามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ บริษัทที่เป็น ยูนิคอร์น นั้นมีจุดเด่นคือความคล่องแคล่วว่องไว ความชำนาญด้านเทคโนโลยี และประสิทธิภาพ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้เพื่อลดความซับซ้อนของการดำเนินงานในส่วนหนังบ้านและการดำเนินงานในสำนักงาน สำหรับธุรกิจที่ใช้ระบบแบบดั้งเดิมในการทำงาน ควรเริ่มคิดถึงการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นอย่างมากเกี่ยวกับวิธีการจัดการดำเนินงานของพวกเขา

โซลูชั่นระบบคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ มีโอกาศทำให้กระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญเป็นไปโดยระบบอัตโนมัติ เพื่อที่จะช่วยให้ประหยัดเวลาสำหรับธุรกิจ เพื่อที่จะให้พวกเค้าใช้เวลาอันมีค่าไปกับสิ่งที่สำคัญ นั่นก็คือการทำธุรกิจ ในขณะเดียวกัน บริษัทที่อยู่บนเส้นทางการเติบโตอยู่แล้ว หรือ บริษัทนั้นได้รับสภานะยูนิคอร์น โดยที่การมีระบบที่ให้การมองเห็นครอบคลุมทั่วทั้งธุรกิจ และการรวมข้อมูลที่ง่ายดายจะช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสำเร็จในอนาคต

ด้านล่างนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงประโยชน์บางประการที่โซลูชั่นซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์มอบให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่อยู่ในเส้นทางการเติบโตสูง และผู้ที่ได้รับสถานะยูนิคอร์น

ความสามารถในการปรับขนาดและความว่องไวของการทำธุรกิจ

ธุรกิจในยุคดิจิทัลทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อาจจะทำให้โมเดลธุรกิจที่ใช้ได้ในวันนี้อาจใช้ไม่ได้ผลในวันหน้า วิธีเดียวที่ธุรกิจจะเตรียมพร้อมสำหรับการหยุดชะงักของการทำธุรกิจคือการเตรียมโซลูชั่นซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์ที่ให้ความสามารถในการปรับขนาดและความคล่องตัวของการทำธุรกิจ โดยอาศัยอำนาจตามสถาปัตยกรรมของระบบคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจปรับขนาดระบบของตนควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจได้ สิ่งนี้จะมอบความคล่องตัว เนื่องจากการมีระบบที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ ช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

ระบบที่ใช้ โค้ดต่ำ / ไม่มีการรวมโค้ด และระบบเวิร์กโฟลว์ที่เป็นอัตโนมัติ

สำหรับธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มักจะมีโซลูชั่นต่างๆ ที่องค์กรใช้สำหรับกระบวนการทางธุรกิจที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ การดำเนินการรวมระบบภายในองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวนั้นอาจจะเป็นกระบวนการที่ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและน่าเบื่อหน่าย แต่ด้วยโซลูชั่นระบบคลาวด์ยุคใหม่ได้มีการนำเสนอเครื่องมือการผสานรวมระบบที่ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อระบบต่างๆ เข้าด้วยกันโดยไม่จำเป็นต้องมีการเขียนโค้ดใหม่หรือว่าใช้การเขียนโค้ดเลย โซลูชั่นการรวมระบบคลาวด์ที่ดีที่สุดในตลาดยังช่วยให้ธุรกิจก้าวหน้าไปอีกขั้นนึงโดยการทำเวิร์กโฟลว์ให้เป็นอัตโนมัติเมื่อรวมระบบต่างๆเข้าด้วยกันแล้ว สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเลี่ยงปัญหาต่างๆได้ เช่น การป้อนข้อมูลซ้ำที่มักเกิดขึนเมื่อมีการป้อนข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่มีความแตกต่างกัน

มุมมอง 360 องศาแบบเรียลไทม์ของกระบวนการทางธุรกิจของคุณ

เมื่อธุรกิจมีการเติบโตมากขึ้นและมีการเริ่มดำเนินการทางธุรกิจผ่านทางออนไลน์ การติดตามกระบวนการทางธุรกิจของคุณจากระบบที่มีความแตกต่างกันอาจจะเป็นเรื่องยาก โดยที่โซลูชั่นซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์จะช่วยให้ผู้นำธุรกิจต่างๆสามารถจับจังหวะการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจและสามารถตอบสนองได้เร็วต่อความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาโดยให้การมองเห็นกระบวนการทางธุรกิจที่ครบทุกด้านแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน การที่ธุรกิจอัปเดตกระบวนการทางธุรกิจสามารถเข้าถึงการมองเห็นของธุรกิจแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ระบุถึงปัญหาและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว

การปฏิบัติตามกฏระบบและข้อบังคับต่างๆ

ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกพยายามออกกฎหมายควบคุมธุรกิจในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก บริษัทต่างๆ อาจพบว่าตนเองกำลังเผชิญกับกฎระเบียบใหม่ๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ต้องปฏิบัติตาม ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องมีกระบวนการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามกฎระเบียบ อย่างไรก็ตาม การจัดการกระบวนการเหล่านี้ด้วยตนเองอาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เนื่องจากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะการเช็คข้อมูลด้วยตนเองนั้นเป็นเรื่องที่มักจะเกิดขึ้นจากกระบวนการที่ธุรกิจป้อนข้อมูลด้วยตนเองและไม่มีระบบอัตโนมัติ และบ่อยครั้ง การผิดพลาดเหล่านี้ทำให้ธุรกิจจำเป็จะต้องเสียค่าปรับที่มีราคาสูง แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อมีโซลูชั่น ซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์ เช่น ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ช่วยให้ธุรกิจดำเนินกระบวนการที่น่าเบื่อเหล่านี้โดยอัตโนมัติ ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีข้อผิดพลาด และธุรกิจดำเนินการโดยยึดตามกรอบการกำกับดูแล

การรวมบัญชีทางการเงินแบบหลายบริษัท / บริษัทย่อย

บริษัทในปัจจุบันพบว่ามีการดำเนินงานในสภาพแวดล้อมระดับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมักจะหมายถึงความท้าทายในการรวมการเงินของบริษัทย่อยทั้งหมด นอกจากความต้องการระบบที่สามารถรองรับหลายสกุลเงินและหลายภาษาได้มากขึ้นแล้ว ยังมีโซลูชั่นระบบคลาวด์มากมายในตลาดที่นำเสอนระบบที่สามารถปรับแต่งตามความต้องการของบริษัทได้อีกด้วย ช่วยให้สามารถดำเนินการได้ในประเทศต่างๆ โดยรองรับสกุลงินและภาษาต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือ โซลูชั่นระบบคลาวด์เหล่านี้ยังช่วยให้บริษัทต่างๆ รวมกางเงินของบริษัทแม่และบริษัทในเครือให้อยู่ระบบเดียวกัน