โซลูชั่นการทำบัญชี: Point vs. End-To-End
ด้วยการกำเนิดของยุคดิจิทัลและการเพิ่มจำนวนของซอฟต์แวร์ในฐานะโปรแกรมบริการ (SaaS) นั้นเป็นไปอย่างช้าๆ แต่แน่นอนว่าจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของโลกอีกครั้ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินนั้นจะต้องทำการลดภาระในการจัดการกระบวนการทางบัญชีที่ทำด้วยตนเอง ซึ่งการลดภาระเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการบัญชีสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่สามารถช่วยพัฒนาองค์กรของตนได้
นี้อาจจะเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันอยู่นานเกี่ยวกับรื่องการทำงานของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการทำบัญชีนั้นควรมุ่งเน้นไปที่กระบวนการทำบัญชีขององค์กรตนเองเพียงอย่างเดียวหรือไม่ ซึ่งเป็นภาพที่ทุกคนคุ้นเคยเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการบัญชีคือภาพบุคคลที่นั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ จ้องมองที่สเปรดชีตและกระทบยอดข้อมูลจากกองเอกสารบนโต๊ะ
ด้วยการพัฒนาใหม่นี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงิน (CFO) มีส่วนร่วมอย่างโดดเด่นอย่างมากเมื่อต้องทำงานร่วมกับหัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศ (CIO) หรือหัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี (CTO) มากขึ้น ในการค้นหาระบบโซลูชั่นที่ดีที่สุดสำหรับแผนกการบัญชีและการเงิน นอกจากนี้แล้ว ความเห็นต่างๆของ CFO ยังช่วยมอบมุมมองเกี่ยวกับโซลูชั่นใหม่ๆให้กับ CIO และ CTO เกี่ยวกับประเภทโซลูชันที่จะทำงานได้ดีที่สุดสำหรับองค์กร โดยเฉพาะแผนกการเงินและการบัญชี
ตลาด software-as-a-service หรือ (SaaS) นำเสนอโซลูชั่นทางการเงินและการบัญชีที่มีความหลากหลาย อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้สามารถทำให้บริษัทหลายๆที่รู้สึกกังวลใจกับการเลือกโซลูชั่นใหม่ เนื่องจากโซลูชั่นที่มีอยู่ในตลาดมากมายทำให้การตัดสินใจเลือกโซลูชั่นนั้นเป็นไปได้ยากมากขึ้น ซึ่งในท้ายที่สุด โซลูชั่นทั้งหมดนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท Point Solution และ End-to-End Solution
ด้านล่าง เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างโซลูชั่นแบบ Point และแบบ End-to-End เพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าโซลูชั่นประเภทใดดีที่สุดสำหรับองค์กรของคุณ
Point Solution: การแก้ปัญหาเฉพาะจุด
โซลูชั่นแบบ Point Solution นั้นถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุด ซึ่งในด้านการทำบัญชีและการเงินที่เปลี่ยนแปลงเป็นแบบดิจิทัลแล้วนั้น โซลูชั่นเฉพาะจุดอาจรวมถึงเครื่องมือเฉพาะที่ทีม F&A ต้องการเพื่อจัดการรายการตรวจสอบการปิดบัญชีสิ้นเดือนหรือเตรียมรายการบันทึกประจำวัน โซลูชันเฉพาะจุดมักถูกจำกัดในขอบเขตหรือความสามารถในการขยาย ทำให้ไม่แอปพลิเคชั่นสามารถทำงานเพิ่มได้
End-to-End Solution: แพลตฟอร์มการแก้ปัญหาแบบ 360 องศา
โซลูชั่นแบบ End-to-End ได้รับการยอมรับว่าเป็นแพลตฟอร์ม “One-stop shop” ที่พร้อมจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้น ผ่านกระบวนการรวมระบบเข้าด้วยกัน แพลตฟอร์มนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเวิร์กโฟลว์จะถูกรวมเข้าในฐานข้อมูลกลาง ขจัดการทำงานแบบไซโล ซึ่งนำไปสู่การทำงานในององค์กรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบ ERP บนคลาวด์ยังถือเป็นตัวอย่างของโซลูชั่นที่ทำการรวมเข้าด้วยกัน ช่วยให้การทำงานภายในองค์กรเป็นไปได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม โซลูชั่น ERP บนระบบคลาวด์มีข้อจำกัดในด้านระบบอัตโนมัติของกระบวนการทบยอดทางการเงินและการจับคู่ธุรกรรม ซึ่งหมายความว่า ERP บางตัวจำเป็นจะต้องมีแพ็คเกจทางด้านการบัญชีที่เสริมขึ้นมา ซึ่งช่วยขยายขอบเขตการทำงานของโซลูชั่น และไม่ได้หมายความว่าข้อมูลทั้งหมดจะซิงค์เนื่องจากไม่มีแพ็คเกจการบัญชีที่อนุญาตให้ผู้ใช้มีมุมมอง 360 องศาของธุรกิจ
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมทีมบัญชีจึงต้องการโซลูชั่นที่รวมข้อมูลทั้งหมดและสร้างขึ้นสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ
BlackLine สุดยอดโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับการเงินและการบัญชี
BlackLine เป็นโซลูชั่นการบัญชีชั้นนำของอุตสาหกรรมที่มีความแตกต่างไปจากโซลูชั่นพื้นฐานที่มีให้ในเครื่องมือการบัญชีส่วนใหญ่ โดยที่ BlackLine เป็นแพลตฟอร์มการบัญชีแบบรวมระบบ ที่จัดการงานที่มีความสำคัญต่อการปิดบัญชีทางการเงินของคุณ เช่น กระบวนการบันทึกเพื่อรายงาน รวมถึงการบันทึกและรายงานในปริมาณมาก รายการบันทึกประจำวัน การวิเคราะห์ผลต่าง และรายการตรวจสอบการปิดบัญชีทั้งหมด
BlackLine ทำหน้าที่เป็น ‘โซลูชั่นแพลตฟอร์ม’ ที่มีความสามารถในการทำหน้าที่เป็นโซลูชั่นแบบสแตนด์อโลน แต่ยังสามารถรวมเข้ากับโซลูชั่นอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น ERP บนคลาวด์ และโซลูชั่นการบัญชีพื้นฐานอื่น ๆ อีกมากมาย
