Blog

ระบบอัตโนมัติ: เกิดอะไรขึ้น ประโยชน์ที่ได้รับ และควรเลือกใคร

By Livingeshan Krishnan

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วทำให้สิ่งที่ไม่สามารถทำได้เมื่อ 10 ปีที่แล้วกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้และมาพร้อมกับความชัดเจนอย่างมากในปัจจุบัน การใช้คำศัพท์ต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติแพร่หลายมากมายในวงการธุรกิจ จนแทบจะดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปไปเสียแล้ว

แต่สำหรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งหมดที่เกิดขึ้น การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในธุรกิจต่างๆนั้น อาจจะมองได้ว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา ตามรายงานของ McKinsey & Company Global เปิดเผยว่าองค์กรส่วนใหญ่ที่ทำแบบสำรวจนั้น กว่า 25% พบว่าการทำให้กระบวนการทางธุรกิจที่ทำในแต่ละวันเป็นระบบอัตโนมัติ ในขณะที่ 20% กล่าวว่าระบบอัตโนมัติกำลังขยายไปยังส่วนต่างๆ ของการดำเนินงานทางธุรกิจ

หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น เช่น โรคระบาดโควิด-19 และกลายเปลี่ยนไปของโลกหลังการระบาดนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้หลายๆธุรกิจได้เร่งนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ 46% ของผู้ตอบแบบสำรวจของ McKinsey ได้กล่าวว่าโรคระบาดโควิด-19 ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในเรื่องการเร่งการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ ในขณะเดียวกัน 60% ขององค์กรกล่าวว่าพวกเขากำลังนำร่องระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้

อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับประโยชน์ของระบบอัตโนมัติที่สามารถนำมาใช้ภายในธุรกิจนั้นไม่ควรมีตั้งแต่แรกแล้ว เป็นที่คาดกันว่าระบบอัตโนมัติสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตทั่วโลกได้สูงถึง 1.4% ต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนที่มหาศาลเมื่อคำนึงถึงบริบทของประชากรที่ทำงานทั่วโลก

บริษัทที่ดำเนินการทางธุรกิจโดยใช้ระบบอัตโนมัติจะสามารถมองเห็นประสิทธิภาพของการจัดการกระบวนการทางธุรกิจและการปรังปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงานในฐานะตัวกระตุ้นหลักของธุรกิจ บริษัทส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบอัตโนมัติยังสามารถสังเกตได้ว่าการปรับปรุงในกระบวนการควบคุมคุณภาพและการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยปัจจัยหลังถูกอ้างถึงว่าเป็นปัจจัยกระตุ้นในการตัดสินใจใช้ระบบอัตโนมัติ

ผู้ที่มีความคิดริเริ่มในการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ตั้งแต่เริ่มแรกและประสบความสำเร็จนั้น ได้กล่าวว่าพวกเขาให้ความพึงพอใจในการใช้งานของลูกค้ามากขึ้นและพนักงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การพยายามในเรื่องการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้นั้นเป็นเรื่องที่ควรนำไปใช้ในระดับที่ดีที่สุดแทนที่จะทำให้การทำงานแบบอัตโนมัติเป็นขั้นตอนเพิ่มเติม

การไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนเครื่องมืออัตโนมัติในตลาด Software-as-a-Service (SaaS) หลายคนพยายามระบุสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ ซึ่งการทำเช่นนี้อาจจะเหมือนการงมเข็มในมหาสมุทร แต่ทว่า เมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการผสานรวมระบบ iPaaS รายหนึ่งได้ปรากฏตัวนำหน้ากลุ่มไล่ตามเมื่อพูดถึงตลาดระบบอัตโนมัติสำหรับองค์กร

การได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้นำเป็นเวลาห้าปีติดต่อกันในรายงาน Magic Quadrant สำหรับผู้ให้บริการระบบ iPaaS ของ Gartner โดยที่ Workato ได้สร้างชื่อเสียงในเรื่องการสร้างระบบเวิร์กโฟลว์อัจโนมัติ ซึ่งความสามารถสองอย่างของ Workato ที่ทำให้คุณสามารถรวมแสต็กการทำงานเข้าไว้ด้วยดันได้ ทำให้เวิร์กโฟลว์เป็นอัตโนมัติโดยวางตำแหน่งที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ด้วยระบบการทำงานแบบ Low Code/No Code (LCNC) ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิคในการใช้งาน Workato ช่วยให้พนักงานสามารถเริ่มต้นการผสานรวมและการทำงานอัตโนมัติในแบบที่พวกเขาต้องการ

ด้านล่างนี้เราจะพิจารณาประโยชน์บางประการที่ Workato นำเสนอสำหรับธุรกิจ:

การรวมแอปพลิเคชั่นเข้าด้วยกัน

Workato ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเชื่อมต่อระบบและแอปพลิเคชั่นที่ใช้อยู่ภายในองค์กรที่มีความหลากหลาย เช่นระบบ CRM, เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติ, ซอฟต์แวร์โปรแกรมช่วยเหลือ, ระบบการเงินและการบัญชี, แพลตฟอร์ม HR และอื่นๆ ให้สามารถรองรับแอปพลิเคชั่นยอดนิยม เช่น Salesforce, ServiceNow, Slack, Marketo และ Zendesk เป็นต้น

เวิร์กโฟลว์ที่เป็นอัตโนมัติ

ด้วย Workato ผู้ใช้สามารถสร้างเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติเพื่อปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ เวิร์กโฟลว์เหล่านี้สามารถเกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันและระบบหลายตัว ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูล การซิงโครไนซ์ และการดำเนินการข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น เครื่องมือสร้างเวิร์กโฟลว์แบบเห็นภาพของ Workato ทำให้การกำหนดทริกเกอร์ เงื่อนไข การดำเนินการ และการแปลงเป็นเรื่องง่าย

ความสามารถในการทำงานของ Bot และ AI

Workato มีความสามารถในการทำงานโดยอัตโนมัติและเป็นอัจฉริยะ รวมถึงความสามารถในการสร้างแชทบอทและใช้ประโยชน์จาก AI ผู้ใช้สามารถสร้าง อินเตอร์เฟซ การสนทนาสำหรับผู้มีส่วนรวมในการทำเนินธุรกิจ ทั้งภายในและภายนอก นอกจากนี้แล้วคุณสมบัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับงานต่างๆ เช่น การดึงข้อมูล การวิเคราะห์ความรู้สึก และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์

การซิงโครไนซ์และการแปลงข้อมูล

Workato ช่วยให้การซิงโครไนซ์ข้อมูลระหว่างแอปพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลเป็นปัจจุบันและสอดคล้องกัน นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการแปลงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและเพิ่มคุณค่าข้อมูลในขณะที่มันไหลระหว่างระบบ

ทริกเกอร์และการแจ้งเตือนตามเวลาจริง

Workato รองรับระบบการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้ตอบสนองต่อเหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงภายในแอปพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น สามารถกระตุ้นการดำเนินการตามลีดใหม่ในระบบ CRM ตั๋วสนับสนุนที่เข้ามา การกล่าวถึงในโซเชียลมีเดีย หรือการอัปเดตข้อมูลเฉพาะ

การกำกับดูแลและการปฏิบัติตาม

Workato นำเสนอฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจถึงการกำกับดูแลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูล มีการควบคุมการเข้าถึงตามบทบาท การเข้ารหัสข้อมูล บันทึกการตรวจสอบ และการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น GDPR และ HIPAA